“อนุทิน” แนะดีเอสไอ หากจับตัว “ณฐพร” ไม่ได้ กรมการปกครองพร้อมสนับสนุนกำลัง ชี้ คดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น ปล่อยหมดอายุความไม่ได้ หากไม่ดำเนินการ ส่อละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ยันภูมิใจไทยโหวตผ่านงบฯ 69 แน่นอน
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ถูกดำเนินคดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น แต่จนถึงขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังไม่นำตัวส่งไปอัยการสั่งฟ้องศาล ว่า รู้สึกว่านายณฐพร ไปฟ้องยุบพรรคภูมิใจไทย และฟ้องอีกหลายๆ อย่าง พร้อมย้อนถามสื่อว่า “นายณฐพร เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และหากดีเอสไอไม่จับจะหมดอายุความใช่หรือไม่”
ผู้สื่อข่าวถามต่อ พรรคภูมิใจไทยจะมีการเร่งรัดดีเอสไอให้จับตัว นายณฐพร มาดำเนินคดีหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย แต่นายณฐพรเป็นคนยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย และวันนี้มีเอกสารจากอัยการโดยเตือนอธิบดีดีเอสไอให้จัดการตัวผู้ต้องหาคือนายณฐพร และพวก เพราะเห็นว่าคดีจะหมดอายุความในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ซึ่งทางอัยการได้ขอให้มีการจัดการตัวผู้ต้องหาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 แล้ว และเดือนพฤษภาคม 2568 ก็มีหนังสือจากอัยการเตือนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้จัดการให้ได้ตัวผู้ต้องหาและออกหมายจับ ตนคิดว่าต้องเป็นไปตามนั้น เพราะหากไม่ดำเนินการจะเข้าข่ายผิดมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยขอให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการ
“ถ้ากำลังไม่พอ เห็นกรมการปกครองก็มีกำลังคอยช่วยสนับสนุนการทำงานของดีเอสไอ เพราะที่ผ่านมาดีเอสไอก็เคยขอให้กรมการปกครองสนับสนุนหลายเรื่อง ครั้งนี้ก็อยากให้ร้องขอกรมการปกครองมาด้วย หากให้ช่วยกระทรวงมหาดไทยก็ถือเป็นเจ้าพนักงาน ไปเจอที่ไหนก็สามารถติดตามตัวนายณฐพร โตประยูร ได้ ผมคิดว่าการติดตามตัวคงไม่ยาก เพราะเขาก็ไปปรากฏตัวที่ดีเอสไอ และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงที่สาธารณะหลายแห่ง เขาไม่ได้หลบ น่าจะรู้หลักแหล่งกันดี เพราะเขาก็ออกสื่อทุกวัน เบอร์โทรศัพท์ก็คงมีอยู่ ก็อยากให้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะทุกคนต้องทำตามกฎหมาย ผมก็เห็นใจ”
...
ปล่อยคดี “ณฐพร” หมดอายุความไม่ได้
ส่วนคำถามว่าหากดีเอสไอปล่อยให้หมดอายุความ จะกระทบกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า หมดอายุความไม่ได้ เพราะสำนักงานอัยการสูงสุดออกหนังสือเตือนแล้ว ดังนั้น เราต้องช่วยกัน เมื่อสักครู่ปลัดกระทรวงมหาดไทยโทรศัพท์มารายงานตนว่าดีเอสไอน่าจะออกหมายเรียกได้ก่อนหมดอายุความ
“หน่วยงานต่างๆ น่าจะมีประวัติเขา เช่น หลายๆ กรมในกระทรวงมหาดไทย เพราะเขาเคยเป็นที่ปรึกษา รวมถึงกรรมการชุดต่างๆ ซึ่งไม่รู้เชิญมาได้อย่างไร ต้องไปถามคนตั้ง ผมไม่ได้ตั้ง ผมไล่ออก ไม่ได้หรอกเอาคนแบบนี้มาทำงาน คนตั้งก็ไม่ค่อยดูให้ดี แต่ยุคสมัยผม และปลัดคนใหม่ รวมถึงอธิบดี 2-3 กรมที่เคยตั้งให้เขาเป็นที่ปรึกษาก็ให้ออกไปแล้ว แต่ขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญคือเขาเป็นผู้ต้องหา ต้องทำตามกฎหมายบ้านเมือง จะปล่อยให้หมดอายุความไม่ได้”
จ่อยื่นฟ้อง “ณฐพร” ต่อจาก “กุสุมาลวตี”
ทางด้าน น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงความคืบหน้ากรณีที่พรรคประกาศฟ้องผู้ยื่นเรื่องยุบพรรค และให้ข่าวใส่ร้ายพรรค เบื้องต้น พรรคได้ฟ้องนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. และอดีตสส.พรรคเพื่อไทย เรียบร้อยแล้วเป็นท่านแรก โดยศาลนัดไต่สวน วันที่ 14 กรกฎาคมนี้ ส่วนนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นรายต่อไปที่พรรคจะยื่นฟ้อง ทั้งนี้ พรรคยืนยันจะดำเนินการอย่างจริงจัง ส่วนการที่นางกุสุมาลวตี ให้สัมภาษณ์เรื่องการได้มาของเอกสาร ตนได้ตั้งคำถามไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าต้องออกมาตอบคำถามให้ได้ว่านางกุสุมาลวตี มีการนำข้อมูลออกมาได้อย่างไร ซึ่งตนได้เคยสอบถามดีเอสไอไปแล้ว แต่ดีเอสไอยังไม่ได้ออกมาชี้แจงว่ามีคนของดีเอสไอนำข้อมูลออกมาให้กับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ได้อย่างไร
โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวอีกว่า ส่วนการทำหน้าที่ของดีเอสไอ พรรคมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ สืบเนื่องจากอัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีหนังสือส่งถึงดีเอสไอให้ติดตามตัวผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อนายณฐพรอยู่ด้วย เราในฐานะประชาชนทั่วไปและฝ่ายนิติบัญญัติเห็นว่า ในเมื่อดีเอสไอมีหนังสือฉบับนี้แต่เหตุใดยังไม่มีการปฏิบัติอะไรทั้งสิ้น ที่สำคัญคือนายณฐพรเดินทางไปถึงดีเอสไอด้วยซ้ำ ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอหรือไม่ อีกทั้งอายุความคดีฟอกเงินจะหมดวันที่ 15 มิถุนายนนี้ ปัญหาคือในเมื่อมีหนังสือจาก อสส. ชัดเจน และตัวผู้ต้องหาตามหนังสือก็เดินทางไปถึงดีเอสไอเพื่อยื่นร้องเรียนพรรคภูมิใจไทยด้วย ปรากฏตัวตามสื่อหลายๆ ที่ จึงต้องถามว่าดีเอสไอว่าทำหน้าที่ครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่ เพราะคดีนี้มีอายุความ 15 ปี และกำลังจะหมดอายุความแล้ว
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยวิเคราะห์หรือไม่ว่าทำไมดีเอสไอจึงปล่อยไว้โดยไม่ดำเนินคดี โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เราคงไม่ก้าวล่วงการทำงานทางกฎหมาย แต่ขอตั้งคำถามถึงการปฏิบัติหน้าที่มากกว่า เพราะ อสส. ก็ส่งหนังสือไปยังดีเอสไอแล้วถึง 2 ครั้ง ผู้สื่อข่าวถามต่อ ถ้าคดีหมดอายุความพรรคจะทำอย่างไร น.ส.แนน กล่าวว่า อาจจะไม่ต้องรอให้หมดอายุความ เพราะพรรคอาจจะมีหนังสือทวงถามถึงการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ ส่วนจะใช้กลไกสภาตรวจสอบการทำงานของดีเอสไอหรือไม่ เรื่องนี้ยังอีกไกล เพราะกว่าสภาฯ จะเปิดสมัยประชุมคือช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ฉะนั้น คงต้องถามไปที่ดีเอสไอก่อน และเมื่อถึงเวลาคงใช้กลไกนิติบัญญัติ
คลิปเสียงดีล สว. ไม่รู้แหล่งที่มา
ส่วนกรณีคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นอดีต สส.พรรคภูมิใจไทย ดีลการเลือก สว.นครพนม จะชี้แจงอย่างไร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ผู้ปล่อยคลิปมาจากแหล่งใด ที่ไหน และเป็นใคร เพราะขณะนี้มีแต่การดัดแปลงเสียง เสียงที่ออกมาก็มีเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถแปลงเสียงทำให้ใครพูดอะไรออกมาก็ได้ ต้องถามว่าที่มาที่ไปอย่างไร จริงแบบที่กล่าวอ้างหรือไม่ เพราะตอนนี้เป็นไปตามสื่อที่ปรากฏเท่านั้น หากดัดเสียงแล้วมากล่าวอ้างว่าเป็นใครก็ง่ายไปเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยสั่นคลอนกับสถานการณ์ขณะนี้หรือไม่ น.ส.แนน บุณย์ธิดา ตอบว่า หากย้อนดูข่าวไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนที่พรรคไหนโดนยื่นยุบข่าวจะถาโถมไปที่พรรคนั้น ครั้งนี้อาจจะเป็นรอบของภูมิใจไทย แต่เราอยู่ในจุดที่อธิบายได้ทุกอย่าง พร้อมชี้แจงทุกประเด็น
ยันผ่านงบฯ 69 แน่นอน ไม่ขวางเรื่องสำคัญของประเทศ
นอกจากนี้ โฆษกพรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระแรก ว่า ตามขั้นตอนแรกเป็นไปตามปกติ ยืนยันผ่านแน่นอน เพราะงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญ เราไม่ต้องการขวางการทำงาน ซึ่งการประชุมพรรควันนี้เราประชุมว่า สส. ท่านไหนสนใจอภิปรายประเด็นไหน ซึ่งพรรคให้ความสำคัญเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อประเทศ เช่น เรื่องภัยพิบัติต่างๆ