"ทักษิณ" แนะกัญชา-กัญชง-ใบกระท่อม ต้องควบคุมอย่างชัดเจน ตอนนี้ปล่อยกันจนทางทิศหลงทางกันหมด จี้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องบริหารอย่างมีเป้าหมาย มียุทธศาสตร์ ไม่ใช่ทำงานไปวัน ๆ 

วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในการปาฐกถาพิเศษเรื่อง "ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน" พร้อมตอบคำถามถึงการนำพืชบางชนิดมาผสมกัน เช่น กัญชาผสมใบกระท่อม ทำให้ต่างประเทศมองว่าไทยเป็นแหล่งผลิตยาเสพติด ควรมีมาตรการอะไรหรือไม่ว่า เราเป็นประเภทที่ขวาไม่ดีไปซ้าย ซ้ายไม่ดีไปขวา ไม่ได้ยึดทางสายกลาง การเสรีต้องควบคุมต้องดูตัวอย่างจากหลายประเทศที่เปิดกัญชาเสรีที่ไม่ได้เดือดร้อนไม่ได้มีปัญหา เพราะเขามีการควบคุมที่ดี บางอย่างไม่ต้องแก้กฎหมายเป็นมติคณะรัฐมนตรีก็ได้ เราไม่ควบคุมตั้งแต่เรื่องการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมองว่าหาซื้อกัญชาที่ไหนก็ได้ ไม่ควบคุมเรื่องของการปรุงที่พบตามข่าว เช่น บราวนี่ใส่กัญชา คนไทยบางทีไม่ศึกษา พระพุทธเจ้าบอกว่าโลภ โกรธ และหลง ทำให้โง่ ไม่ได้โง่เพราะไอคิวต่ำ แต่โง่เพราะจิตเสียหาย ที่ใจมันโลภเป็นอกุศล รวมถึงโง่เพราะความไม่รู้ความมีกิเลส ชี้นำสังคมและสอนคนฉลาดให้โง่เหมือนเขา

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สอบถามถึงแนวคิดหนึ่งอำเภอหนึ่งศูนย์บำบัด ที่อาจจะต้องพูดคุยกับศาลที่มีการลงโทษให้ไปอยู่ในสถานควบคุมความประพฤติ สำหรับผู้เสพคือผู้ป่วย นายทักษิณตอบว่า ตนเป็นคนเริ่มคำว่าผู้เสพคือผู้ป่วยเพราะอยู่ในคุกเยอะมาก เป็นการลดประชากรในคุกโดยเอาเข้าไปอยู่ในค่ายทหาร 4 เดือน ก่อนส่งกลับคืนชุมชน ซึ่งในระยะเวลานั้นเราได้ทำการปราบปรามควบคุมและผู้ป่วยยังได้ไปล้างความอยาก นอกจากนี้ไม่อยากให้ยาเสพติดอยู่ในชุมชน อย่างไรก็ตามกฎหมายไม่ควรตายเกินไป เราต้องดูพฤติกรรมเป็นหลัก

...

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนได้ถามถึงบทบาทขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะช่วยแก้ปัญหายาเสพติด และความหมายของคำว่าผู้ว่าฯ CEO นายทักษิณตอบว่า เรื่องผู้ว่า CEO รัฐมนตรีมหาดไทยคงจะต้องไปพิจารณาคำว่าผู้ว่า CEO ตนต้องการเน้นให้ผู้ว่าฯ มียุทธศาสตร์ มีเป้าหมายในการพัฒนาจังหวัดไม่ใช่บริหารไปวัน ๆ บริหารอย่างมียุทธศาสตร์มีเป้าหมายแล้วต้องเอาอำนาจทั้งหมดไปรวมศูนย์อยู่ที่ผู้ว่าราชการเพื่อได้สั่งการ ศูนย์ราชการที่อยู่ร่วมกันได้ เพราะไม่มีเจ้าภาพจึงมอบให้ผู้ว่าราชการเป็นเจ้าภาพ และอีกอย่างที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจะช่วยได้คือการบำบัด ที่จะช่วยดูว่าสถานที่ไหนอำเภอไหน สามารถปรับเป็นศูนย์บำบัดได้ เราก็จะสามารถของบประมาณไปพัฒนา