“อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” โต้ “นพ.วรงค์” อย่าโจมตีนโยบายรัฐบาลด้วยวาทกรรมการเมือง จนส่งผลให้ในอนาคตพรรคการเมืองไม่กล้านำเสนอนโยบาย เมินขุนพลพรรคประชาชน ชี้เวทีอภิปรายงบประมาณ 69 ไม่ใช่ที่ถล่มทางการเมือง

วันที่ 24 พ.ค. 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี แสดงความเห็นว่าโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่สามารถหักหนี้กับผลประโยชน์ได้ ว่าเป็นการมองแบบตัดตอนเพียงเฉพาะด้านบัญชี ไม่มองมิติทางเศรษฐกิจและสังคม นโยบายดังกล่าวที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้มากกว่า 3.7 ล้านครัวเรือน เงินกว่า 6.8 แสนล้านบาท หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจ ยกระดับรายได้ของเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม มีเป้าหมายชัด มีระบบตรวจสอบ ทำให้ไทยกลับมาครองตำแหน่งผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลกได้ในช่วงเวลาดังกล่าว การโจมตีนโยบายด้วยวาทกรรมทางการเมืองเพื่อลดทอนความน่าเชื่อถือของฝ่ายตรงข้ามซ้ำแล้วซ้ำเล่า อาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการผลักดันนโยบายเปลี่ยนประเทศ อาจส่งผลให้ในอนาคตพรรคการเมืองไม่กล้านำเสนอนโยบายแบบพลิกประเทศ ที่คิดใหม่ ทำใหม่ มุ่งตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาของประเทศ อาจได้รัฐบาลที่ไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำอะไรเชิงโครงสร้าง เพราะจะถูกนำมาเป็นเครื่องมือทำลายล้าง ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินติดหล่ม ขออย่าทำลายบรรยากาศของการแข่งขันกันออกความคิดเชิงนโยบายด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้น หากยังเชื่อว่าประชาชนควรมีทางเลือก ควรยอมรับว่านโยบายที่ทำได้จริงและช่วยเหลือคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้น สำเร็จได้โดยรัฐบาลที่กล้าผลักดันนโยบาย และรัฐบาลนั้นไม่ควรถูกทำให้กลายเป็นจำเลยทางการเมืองไม่จบสิ้น

...

เมินขุนพลพรรคประชาชน ชี้เวทีงบ 69 ไม่ใช่ที่การเมือง

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาชนเตรียมขุนพล 40-50 คน เพื่ออภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2569 ว่า การอภิปรายงบประมาณไม่ควรถูกทำให้กลายเป็นสนามประลองกำลังทางการเมืองระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน เพราะงบประมาณคือเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ ทุกฝ่ายในสภาควรร่วมกันพิจารณาอย่างสร้างสรรค์ พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องระดมขุนพลมาแสดงบทบาทการชำแหละหรือเตรียมถล่มกันทางการเมือง แต่มอบหมายให้ ส.ส. ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในงบแต่ละด้าน ได้อภิปรายอย่างเต็มที่ ให้เข้มข้นในเนื้อหาเชิงคุณภาพ ทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองงบประมาณแทนพี่น้องประชาชนทุกคน โดยยึดหลักการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โปร่งใส และตอบสนองต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะยาว

การอภิปรายงบประมาณแผ่นดิน เป็นโอกาสของบ้านเมืองไม่ใช่เวทีของการต่อสู้กันทางการเมือง แต่คือการสะท้อนความรับผิดชอบของผู้แทน ที่ต้องร่วมกันพิจารณาอย่างจริงจังและสร้างสรรค์ เพื่อให้เงินงบประมาณทุกบาททุกสตางค์เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน