“ศุภชัย ใจสมุทร” ข้องใจสำนวนสอบสวนคดีฮั้วเลือก สว. อยู่ในมือ “ณฐพร” ซัดถูกใช้เป็นเครื่องมือเล่นงานพรรคภูมิใจไทย ทวงถามคดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นที่อยู่ในดีเอสไอถึงไหนแล้ว อัดยับใช้สิทธิต้องมือสะอาด
วันที่ 24 พ.ค. 2568 นายศุภชัย ใจสมุทร ทีมกฎหมายพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เกี่ยวกับคดีฮั้วเลือก สว. โดยเนื้อหาในคำร้องดังกล่าวพาดพิงถึงพรรคภท.ว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายพรรคกำลังพิจารณาดำเนินคดีกับนายณฐพร ในหลายข้อกล่าวหาที่ทำให้หัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคได้รับความเสียหาย เนื่องจากเป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริต มีวาระซ้อน แบ่งหน้าที่กันทำเป็นกระบวนการ รับงานกันเพื่อมาทำลายพรรคหรือไม่ โดยเฉพาะข้อมูลและพยานหลักฐานที่นายณฐพรอ้างว่าได้รับมาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ (ดีเอสไอ) และกกต. อยากถามว่าได้มาได้อย่างไร และจะใช้เป็นหลักฐานที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
นายศุภชัย กล่าวต่อมา จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรา เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2564 พบว่า นายณฐพร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็น 1 ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหาคดีฟอกเงินการขายที่ดินอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงิน 477 ล้านบาท หลังดีเอสไอมีความเห็นสั่งฟ้องและส่งให้อัยการพิจารณา แต่จนปัจจุบันคดียังไม่มีความเห็นสั่งฟ้องเพราะอัยการสั่งสอบเพิ่มมาหลายปี
สำหรับคดีดังกล่าว ดีเอสไอพบเส้นทางการเงินในส่วนของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร มีการโอนแคชเชียร์เช็คให้กับนายณฐพร 60 ล้านบาท รวมถึงนิติบุคคลต่างๆ ในเครือข่ายนายศุภชัยอีกจำนวนหลายสิบล้านบาท และนายณฐพรเคยให้สัมภาษณ์ว่าเงินดังกล่าวเป็นค่านายหน้าดำเนินการในการขายที่ดิน (บริษัท อินเตอร์อลาย แอนด์ กฎหมาย)
...
นายศุภชัย กล่าวต่อ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า ในเมื่อนายณฐพร ซึ่งมีคดีฟอกเงินที่ดีเอสไอที่ทำหน้าที่สอบสวน และเป็นผู้ฟ้องคดี มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า มีสายสัมพันธ์ที่ดีและเกื้อกูลกันและจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเล่นงานพรรคภท.หรือไม่ ซึ่งหลักกฎหมายเรื่องมือสะอาดเป็นหลักการพื้นฐาน ว่าบุคคลจะเรียกร้องความยุติธรรมจากศาลหรือจะร้องเรียนเรื่องใดบุคคลนั้นจะต้องเป็นบุคคลที่มือสะอาดเป็นบุคคลที่ไม่มีมลทินมัวหมอง รวมถึงมีคำถามไปถึงดีเอสไอ คดีความไปถึงไหนแล้ว