“รองนายกฯ ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนเคาะแผนยุทธศาสตร์ ชี้ต้องทำหลายอย่างคู่กันไป ยืนยัน จะคุ้มครองดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม

วันที่ 24 พ.ค. 2568 ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รมช.กลาโหม พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (เลขา ศอ.บต.) ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพบปะกับหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 24 - 25 พ.ค. เพื่อพบกับฝ่ายปฏิบัติงาน ผู้ประกอบการ ภาคประชาสังคมในพื้นที่ โดยนายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ต้องการฟังจากผู้ปฏิบัติงานโดยตรง ไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชา จะรายงานหรือมองปัญหาไม่ถูกต้อง เพียงแต่อยากรับฟังให้รอบด้าน เพราะปัญหาในพื้นที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมีปัญหาที่สลับซับซ้อน คิดว่าเป็นการรับฟังครั้งสุดท้ายในเฟสแรก เชื่อว่าหลังจากการรับฟังครั้งนี้น่าจะมีข้อสรุปอะไรที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตนคิดไว้หมดแล้วว่าจะใช้กลไกอะไรบ้าง การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะออกมาเป็นรูปแบบใด แต่เนื่องจากยังย้อนแย้งกับเรื่องความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชน จึงคิดว่าหากได้พูดคุยกันคงจะได้เห็นทางออกหลายๆ อย่าง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องระงับเหตุความรุนแรงด้วย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้านความมั่นคงแล้ว แต่ยังไม่ใช่ความเห็นทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน และหากทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันแล้ว จะต้องนำยุทธศาสตร์มาพูดคุยกันอีกครั้ง แม้จะมีการประกาศไปแล้วก็ตาม ซึ่งมายเซ็ทที่สำคัญคือต้องมองยุทธศาสตร์และปัญหา รวมไปถึงทางออกให้สอดรับกัน และทำตามหน้าที่ของแต่ละคน

...

เมื่อถามว่าจะยังคงยืนยันใช้โต๊ะเจรจาสันติสุข ชายแดนภาคใต้อยู่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ปฏิเสธกลไกใดๆ แต่คงต้องมาดูว่าจะต้องปรับปรุงในสิ่งที่ทำหรือไม่ หรือหากไม่มีบทบาทหรือความสำคัญแล้วก็ต้องทิ้งไป แต่ยังคงยืดหยุ่นอยู่ ยังไม่ได้คิดว่ายกเลิกอะไรหรือไม่ เมื่อถามว่าต้องรอแผนยุทธศาสตร์ชายแดนใต้แล้วเสร็จก่อนหรือไม่ จึงจะเดินหน้าพูดคุยสันติสุขได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หลายอย่างสามารถทำคู่ขนานกันไปได้ เพราะหากจะรอให้เบ็ดเสร็จทีเดียวคงยาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายภูมิธรรมจะพบปะกับฝ่ายปฏิบัติโดยตรง 3 ส่วน ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจ และกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นไปที่ข้อจำกัดปัญหาของฝ่ายปฏิบัติงาน และการหารือในครั้งนี้จะไม่ให้ทั้งแม่ทัพภาค รองแม่ทัพภาค ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เข้าหารือด้วย เพื่อต้องการให้ผู้ปฏิบัติงานสะท้อนปัญหาโดยตรง ขณะเดียวกันก็จะเปิดโอกาสพูดคุยกับภาคประชาสังคม หรือเอ็นจีโอด้วย

ยัน จะคุ้มครองดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม

จากนั้นเวลา 10.30 น. นายภูมิธรรม ได้เดินทางมาเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี ที่วัดปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยได้กล่าวระหว่างการพบปะประชาชนที่จังหวัดนราธิวาสว่า ช่วงหนึ่งว่า การเดินทางมาในวันนี้ ต้องการมาให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากได้รับทราบถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ได้ติดตามความคืบหน้ากับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิดเนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญ จำเป็นต้องหาทางแก้ไขโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานและมีความสลับซับซ้อน แต่ยืนยันว่าจะพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

“เชื่อมั่นว่า ด้วยพื้นฐานของคนไทยที่เป็นผู้ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข แม้จะเป็นพื้นที่ที่มีความแตกต่างทางความเชื่อทางศาสนา หรือเชื้อชาติก็ตาม” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้ศึกษาปัญหาเรื่องความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาระยะหนึ่ง และพบว่ามุมมองต่อเรื่องนี้ที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรมได้ให้คำมั่นว่า จะคุ้มครองดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม

จากนั้นได้เดินทางพบปะและให้กำลังใจกับผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน และประชาชน ที่มัสยิดราชพัฒนา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ต่ออีกด้วย

ตรวจเยี่ยม บำรุงขวัญ ทพ.4803 กรมทหารราบที่ 151

ต่อมาเมื่อเวลา 12.15 น. นายภูมิธรรม เดินทางไปที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 151 เพื่อติดตามสถานการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลกองร้อยทหารพราน 4803 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ บ.ปิเหล็ง ต. มะรือโยออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลทหารใหม่ ร.151 พัน.3

โดย นายภูมิธรรม ได้กล่าวให้กำลังใจกับทหารใหม่ในการฝึก เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประเทศในยามศึกสงครามรวมทั้งเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ทั้งนี้ยังได้กล่าวขอบคุณพลทหารที่สมัครใจเข้ามาเป็นทหารใหม่ในครั้งนี้