“ศิริกัญญา ตันสกุล” เผย พรรคประชาชน เตรียม 40 สส. อภิปรายงบประมาณปี 69 จัดเต็มธีม “ช่วยรัฐบาลหาเงิน โอกาสสุดท้าย ก่อนเศรษฐกิจไทยพังจริง” ชี้ รัฐบาลทุ่มงบ 1.57 แสนล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งหน่วยงานส่งโครงการในไม่กี่วัน เปิดช่องคนมีโครงการในกระเป๋าอยู่แล้วได้โอกาส ทำคนไม่มีโครงการพลาดโอกาส มองเสถียรภาพรัฐบาลส่งผลโหวตผ่านร่าง

วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของพรรคปชน. ว่า ช่วงนี้จะมีการซักซ้อมผู้อภิปรายกันอย่างเข้มข้น เนื่องจากเพิ่งได้รับเอกสารร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา เราพยายามคัดเลือกบุคคลที่จะอภิปรายในหัวข้อและประเด็นต่างๆ ที่จะไม่ซ้ำกันเลย โดยเบื้องต้นน่าจะมีผู้อภิปรายประมาณ 40 กว่าคน

เมื่อถามว่า จะมีธีมในการอภิปรายหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เนื่องจากปีนี้ประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงที่เศรษฐกิจกำลังตกต่ำ ฉะนั้น เราจึงเห็นว่าเราควรที่จะช่วยรัฐบาลหางบประมาณ จึงเป็นธีม “ช่วยรัฐบาลหาเงิน โอกาสสุดท้าย ก่อนเศรษฐกิจไทยพังจริง” นอกเหนือจากปกติที่ฝ่ายค้านจะเสนอหลักการใช้งบประมาณที่ดี เสนอการรีดไขมันแล้ว ครั้งนี้เราจะช่วยจัดระดับความสำคัญของโครงการต่างๆ เพื่อจะให้มีเม็ดเงินเหลือมากเพียงพอที่จะเอาไว้ใช้รับมือกับสถานการณ์สงครามการค้าด้วย

เมื่อถามว่า มองเรื่องรูปแบบการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทที่เร่งหน่วยงานต่างๆ เสนอโครงการเข้ามาเพื่อขอใช้งบภายในกี่วันอย่างไรบ้าง น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ในเชิงหลักการเราไม่ได้เห็นแย้งกับการที่รัฐบาลจะเอาไปใช้สำหรับทำโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจชุมชน และการเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากสงครามการค้า แต่ในเชิงรายละเอียดและการดำเนินงาน เราไม่อยากให้ดำเนินการซ้ำรอยเดิมจากที่เคยเป็นมาในช่วงโควิดที่มีการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ 1.55 ล้านล้านบาท ที่มีการทำแผนงานฟื้นฟูเช่นนี้และให้หน่วยงานส่งโครงการขึ้นมาเช่นนี้ แต่อาจจะให้เวลานานหน่อย แต่ตอนนั้นเต็มไปด้วยโครงการเบี้ยหัวแตก ไม่ได้เกิดผลขึ้นจริง มีความล่าช้า มีโครงการที่ถูกยกเลิกและสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดการคอร์รัปชัน หาประโยชน์จากนักการเมืองในพื้นที่ เป็นต้น ซึ่งรอบนี้ก็มาแบบเดิม เช่น โครงการน้ำที่ให้เวลาในการส่งโครงการเพียงแค่ 2 วัน แต่เมื่อมีการทักท้วงกันก็ขยายเวลาเป็น 5 วัน ซึ่งยังเป็นเวลาที่ค่อนข้างกระชั้นชิดเช่นกันในการที่จะคำนวณค่าก่อสร้าง บีโอคิวต่างๆ ของการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่

...

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ดังนั้น จึงเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่อาจจะมีโครงการในกระเป๋าอยู่แล้วได้โอกาสนี้ไป แต่หากเป็นหน่วยงานไหนที่ยังไม่มีโครงการอยู่ในมือก็อาจจะพลาดโอกาสนี้ไป ซึ่งทำให้มีความได้เปรียบเสียเปรียบกันแทนที่จะเป็นโครงการไหนที่มีความเหมาะสมหรือสมควรได้ทำก่อน แต่กลายเป็นโครงการที่ได้คือโครงการที่ทำไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ทางพรรคปชน. จะมีข้อเสนอแนะอย่างไรหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ควรเป็นส่วนผสมของโครงการที่สั่งมาจากท็อปดาวน์คือรัฐบาลมีแนวทางที่จะพัฒนาประเทศอยู่แล้ว และอีกส่วนเป็นการส่งโครงการมาจากด้านล่าง โดยโครงการที่รัฐบาลมีแนวทางอยู่แล้วควรเป็นโครงการที่รัฐบาลเล็งเห็นอยู่แล้วว่าน่าจะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจไปในแนวทางที่รัฐบาลอยากเห็น อยากเห็นแหล่งน้ำเป็นอย่างไร อยากเห็นถนนไปที่ไหน เป็นต้น แต่จริงๆ เราอยากเห็นว่ารัฐบาลมีโปรเจกต์อะไรในใจที่อยากให้เกิดขึ้น

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า หากเป็นเรา เราคงจะทำเป็นแคตตาล็อกว่าพื้นที่ไหนอยากทำน้ำประปา โรงงานขยะ โรงบำบัดน้ำเสีย หรือการจัดการปัญหาจราจร โดยจะเป็นแคตตาล็อกที่รัฐบาลอยากเห็น แต่จะให้หน่วยงานในพื้นที่เป็นคนนำไปปฏิบัติจริง แต่เงินอีกส่วนจะเป็นโครงการที่หน่วยงานในพื้นที่ส่งกลับมา ขณะเดียวกันก็อาจจะต้องมีโครงการขนาดใหญ่ที่ส่วนกลางเป็นคนทำซึ่งจะเป็นโครงการที่อัปสกิล รีสกิล เป็นต้น เพื่อลดความได้เปรียบเสียเปรียบและการจัดลำดับความสำคัญของโครงการ และลดความสุ่มเสี่ยงต่อปัญหาคอร์รัปชัน

เมื่อถามว่า มองเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลที่เผชิญหน้ากันเช่นนี้ จะส่งผลต่อการโหวตเห็นชอบร่างพ.ร.บ. งบประมาณฯ พ.ศ. 2569 หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า “ก็อาจจะเป็นไปได้”