“ภูมิธรรม” ขอเลิกดราม่าโจมตี “นายกฯ อิ๊งค์” ใช้เงินหลวงเที่ยวอังกฤษ โต้กลับมีทรัพย์สินมหาศาลไม่จำเป็นต้องเบียดบังงบหลวง แจงโพสต์ถ่ายภาพคู่ “อาปู” แค่ให้กำลังใจ ตนเองก็จะโพสต์แต่บังเอิญติดงาน
วันที่ 23 พ.ค. 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปต่างประเทศถูกวิพากษ์วิจารณ์ใช้งบประมาณของราชการเที่ยวพักผ่อนว่า การดราม่าในสื่อโซเชียลควรต้องมีความรับผิดชอบไม่ใช่นึกอะไรแล้วโพสต์ทำให้เกิดความเสียหาย พร้อมชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่านายกฯไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณของราชการเลย หากจะไปเที่ยวบางเรื่องใช้เงินตัวเองด้วยซ้ำ การไปต่างประเทศทุกครั้งของนายกฯและแม้แต่ตนเองก็ไม่จำเป็นจะต้องบอกรายละเอียดทั้งหมด เพราะมีหลายเรื่องที่จะต้องทำเป็นความลับ ถ้าหากมีส่วนไหนที่เปิดเผยได้ก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะการเปิดเผยทำให้เห็นว่ารัฐบาลเราทำงานเหมือนกรณีการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกาที่ดูภายนอก อาจจะไม่ได้นัดวันแต่ระดับคนทำงานต้องมีการเจรจากันต่างๆ จึงคิดว่าวิญญูชนทั้งหลายน่าจะทราบว่านายกรัฐมนตรีที่มีงบประมาณมีเงินส่วนตัวมากมายขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องมาเบียดบังเงินเล็กน้อยของหลวง และมีแต่จะเสียหายกับตัวเองเปล่าเปล่า ขอให้เลิกดราม่าอยากให้คุยกันที่ความจริงมากกว่า
“อิ๊งค์”แค่ให้กำลังใจอาปู
ส่วนประเด็นล่าสุดที่นายกรัฐมนตรีโพสต์ภาพกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นช่วงวันและเวลาที่อยู่ลอนดอนนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่าตนเองก็กำลังจะโพสต์เหมือนกัน แต่บังเอิญมีงานและก็ให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์และเห็นใจ เหมือนที่ตนเองทำให้เห็นคือขายข้าวที่คงค้างในสต๊อกจนขายได้กิโลกรัมละ 18 บาท แต่ก่อนหน้านั้นสองปีขายได้กิโลละ 3-5 บาท ก็เป็นสมมุติฐานหนึ่งเพราะที่ผ่านมามีการเสนอเรื่องนี้ไปแต่ศาลปิดรับ
...
“ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้ก็เป็นเหตุเป็นผลที่จะต้องเอามาพิจารณา ขณะเดียวกันก็เห็นใจนางสาวยิ่งลักษณ์ อยากให้ได้รับความเป็นธรรมคืนกลับมา แต่ศาลเขาก็มีอำนาจในการพิจารณาเราก็เคารพ แต่ข้อเท็จจริงหนทางในการต่อสู้คดีทางกฎหมาย หากมีเวลาและมีเงื่อนไขเราก็ต้องดำเนินการ ซึ่งอาจจะต้องมีการยื่นขอให้ศาลพิจารณาใหม่ตามที่ทนายความได้ให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวาน” นายภูมิธรรม กล่าวและ ยืนยันว่าการจะสู้คดีเพื่อจะทำให้เห็นว่าการได้รับโทษแบบนี้ไม่เป็นธรรมสำหรับนางสาวยิ่งลักษณ์
พร้อมย้ำว่าการขายข้าวที่คงค้างในโกดังเมื่อครั้งที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หนทางเดียวที่ต้องทำคือการขาย ส่วนจะเอื้อใครหรือไม่อยู่ที่ข้อเท็จจริงมองเป็นการหยิบเอาเฉพาะเรื่องนี้มาแล้วมาหาเรื่อง ซึ่งเองก็เดินหน้าขายข้าวจนได้ราคาดี โดยไม่ได้สนใจกระแสวิพากษ์วิจารณ์