“สุชาติ” ลั่นยังไม่ตัดสินใจย้ายพรรค เตรียมนัด สส. ในกลุ่มคุยสิ้นเดือน พ.ค. อุบอนาคตทางการเมืองศึกเลือกตั้งครั้งหน้า รับภาคตะวันออกหลายพรรคหวังช่วงชิง

เมื่อเวลา 09.46 น. วันที่ 20 พ.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช. พาณิชย์ สส. บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตทางการเมืองจะรับพรรคกล้าธรรมไว้พิจารณาหรือไม่ ว่า ตนไม่ได้อยู่คนเดียว มีเพื่อนมีฝูงหลากหลาย อย่างภาคตะวันตก ราชบุรี เพชรบุรี ราชบุรี ภาคกลางก็เช่นกัน ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี หรือแม้แต่ภาคใต้ “จึงต้องหารือกับเพื่อนด้วยว่า เราจะอยู่กันอย่างไร วันนี้เราอยู่พรรครทสช. เราคงไปพูดชัดเจนอย่างนั้นไม่ได้”

พร้อมยอมรับด้วยว่า ส่วนตัวก็มีความเคารพ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สส. พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2562 แล้วเป็นผู้แทนราษฎรด้วยกัน แต่ในทางการเมืองเราเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน อย่างที่ ร.อ. ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ก็ถูก หรือกรณีของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส. อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นเพื่อนเป็นพี่กัน รู้จักกันก่อนมาเป็นผู้แทนราษฎรอีก ความเป็นนักการเมืองความสัมพันธ์มันมากกว่าการเป็นนักการเมืองอีก เป็นพี่เป็นน้องกันมากกว่า

เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้าแก้เกมได้

ส่วนกรณีภาคตะวันออกกลายเป็นพื้นที่หลายพรรคการเมืองให้ความสนใจนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า พื้นที่ภาคตะวันออกถือเป็นตัวชี้วัดในการช่วงชิงกันในการเลือกตั้งทุกครั้ง ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่าในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลทำผลงานได้ไม่ค่อยดี ซึ่งความจริงก็มีหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งเราก็มีการแข่งขันกันเองด้วย จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบางส่วน แต่เชื่อว่าเลือกตั้งครั้งหน้าเราสามารถทำได้ เพราะว่าที่ผ่านมามันทำให้เราได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง จุดอ่อน จุดแข็ง ของแต่ละพื้นที่คืออะไร

...

เมื่อถามว่าทำให้กลุ่มของท่านเป็นที่หมายตาของแต่ละพรรคหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วตนก็อยู่พื้นที่ภาคตะวันออกมานาน และยังคุ้นเคยภาคตะวันตกและภาคกลางด้วย ซึ่งก็มีเพื่อนมีกัลยาณมิตรที่ดีหลายจังหวัด แต่ว่าในพื้นที่ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ที่เราสามารถช่วงชิงได้ เพราะฉะนั้นตนเป็นคนภาคตะวันออกก็ต้องรักษาพื้นที่ให้ได้มากขึ้นในครั้งหน้า เพื่อให้ได้ สส. มากขึ้นการทำงานของเราก็จะต้องหาแนวร่วมจากชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นในทุกพื้นที่

เชื่อตัวบุคคลสำคัญสุด

เมื่อถามว่า ระหว่างพรรคกล้าธรรมและพรรคภูมิใจไทย อยู่พรรคไหนจะทำให้ทำงานได้ง่ายกว่า นายสุชาติ กล่าวว่า ตนคิดว่าวันนี้การเมืองหลัก ๆ อยู่ที่พื้นที่ ความเข้มแข็งของตัวบุคคล ไม่ได้มองว่าพรรคการเมืองจะทำให้พื้นที่ทำงานนั้นทำงานยากหรือง่าย เราเชื่อว่าตัวบุคคลสำคัญที่สุด เมื่อถามว่า พรรคที่อยู่ปัจจุบันนี้มีอะไรที่จะมายึดเหนี่ยวใจอยู่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราร่วมต่อสู้กันในอุดมการณ์ทางการเมืองด้วยกัน แต่กาลเวลามันก็ไปเรื่อย ๆ ก็ต้องดูว่าอนาคตพรรคเราจะเป็นอย่างไร และเราต้องถามความคิดเห็นของเพื่อน ๆ กลุ่มเราด้วย เพราะตอนที่เรามาเราก็ชักชวนเพื่อน ๆ ย้ายจากพรรคอื่นมาอยู่ด้วยกันเป็นสิบ ๆ คน ชวนมาทำการเมืองด้วยกัน ดังนั้น การตัดสินใจจะตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ ต้องฟังเพื่อน ๆ ด้วย แต่ขอให้มั่นใจว่า เราทำงานการเมืองสนับสนุนรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จากพรรคไหนก็แล้วแต่ทั้งพรรคภท. หรือพรรคกธ. ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ทำงานเพื่อประเทศชาติด้วยกัน มีเป้าหมายเดียวกันคือยึดประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก เราก็ทำงานร่วมกันได้ทุกคน

นัดคุยสส.ปลายเดือนพ.ค.

“การเมืองเป็นเรื่องอนาคต เราต้องยอมรับว่า เราพูดไปก่อนไม่ได้ เดี๋ยวจะเป็นการมัดตัวเอง ยังรับปากอะไรไม่ได้ ต้องหารือก่อน เดี๋ยววันที่ 28-29 พ.ค. จะนัดเพื่อน ๆ ในกลุ่มกินข้าวประมาณ 20 คน พูดคุยกันหน่อย หลายคนก็อยากอัพเดทการเมืองกับผมด้วย” นายสุชาติ กล่าว