รัฐบาลสั่งปูพรมจับ “แบรนด์เนม ไฮโซเก๊” ล้างบางสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เรียกความเชื่อมั่น วางเป้าถอนรากถอนโคนทำไทยหลุดบัญชีถูกจับตาทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐฯ
วันที่ 19 พ.ค. 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.ต.ต. ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้รายงานว่า ตำรวจ ปอศ. ได้เปิดมาตรการปูพรมกวาดล้างโกดังสินค้าปลอมในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญได้ 2 คน คือ นายเจียเซียน และ นายหาง สัญชาติจีน ในข้อหา “มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า ปลอม/เลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และหรือ เอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความใด ๆ ในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือทำให้ปรากฏชื่อสินค้าเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272”
การจับกุมดังกล่าวสามารถตรวจยึดของกลางรวมกว่า 8 หมื่นชิ้น มูลค่าความเสียหายมากกว่า 52 ล้านบาท แยกประเภทได้ดังนี้
1. สินค้าประเภทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เคสโทรศัพท์ วิทยุสื่อสาร หลอดไฟ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 2,954 ชิ้น
2. สินค้าอุปโภค บริโภค จำนวน 73,817 ชิ้น
3. สินค้าแบรนด์เนม จำนวน 1,452 ชิ้น นอกจากนี้ ได้ตรวจยึดอุปกรณ์โทรศัพท์ เครื่องคอมพิวเตอร์มาตรวจสอบถึงเส้นทางการนำเข้าสินค้า บัญชีธนาคารผู้รับประโยชน์ เพื่อขยายผลต่อไปกว่า 12 เครื่อง
...
นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ประกาศสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้ารายสำคัญ ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ (Special 301) ประจำปี 2568 โดยคงสถานะไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (Watch List: WL) นั้น ปัจจุบันกรมทรัพย์สินทางปัญญาเตรียมชี้แจงสหรัฐฯ ถึงพัฒนาการและดำเนินการตามแผนงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP Work Plan) เพื่อผลักดันให้ไทยหลุดจากทุกบัญชี แม้ว่าสหรัฐฯ ยังคงสถานะไทยที่ WL แต่ก็ได้ชื่นชมการดำเนินการคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย โดยเฉพาะการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย 2 ฉบับ คือ กฎหมายลิขสิทธิ์และกฎหมายสิทธิบัตร รวมถึงการกำกับดูแลองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ (Collective Management Organizations: CMOs) ที่ได้ดำเนินการตามหลักปฏิบัติที่ดีในการบริหารการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง (Code of conduct) ใช้เครื่องหมายรับรอง CMOs รวมถึงการบูรณาการหน่วยงานของไทยในการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
หวังไทยหลุดบัญชีจับตามอง
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลเร่งบูรณาการทำงานกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อขจัดปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ รวมทั้งปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่แทรกซึมผ่านระบบเศรษฐกิจและกฎหมายไทย เพื่อให้ไทยหลุดจากบัญชี Watch List (WL) โดยเร็ว ทั้งนี้รายงานที่ส่งมายังคณะทำงานพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายส่วนเข้าไปพัวพันในการรับสินบนจากผู้นำเข้า ผู้ขายและการขายสินค้าผ่านออนไลน์จนสามารถเปิดขายได้ตามร้านค้าตามเว็บไซต์ทั่วไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งบัญชีดำของเจ้าหน้าที่รับสินบนจะถูกดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเจ้าหน้าที่รับสินบน แจ้งเบาะแสได้ที่ สำนักนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์หมายเลข 1111 หรือส่งจดหมายมาที่ “เสียงจากใจไทยคู่ฟ้า” เลขที่ 1 ทำเนียบรัฐบาล กทม. 10300 และ jirayu9000@gmail.com