เปิดหน้าซัดกันดุเดือดแบบตรงๆไม่มีกระมิดกระเมี้ยนเก็บอาการ ใช้เกมตรวจสอบฮั้วเลือก สว. เป็นสงครามตัวแทน วัดพลังขั้วอำนาจค่ายแดง-ค่ายน้ำเงิน อีกต่อไป“เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ใส่กันยับในเวทีคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังตั้งแท่นตรวจสอบการฮั้วเลือก สว.กุสุมาวตี ศิริโกมุท สว.สำรอง อดีต สส.เพื่อไทย เปิดข้อมูลฮั้วกลางวง โยง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รู้เห็นกระบวนการฮั้ว สว.แฉทำโพยล็อกสเปกเลือก สว.20 กลุ่มเสร็จสรรพแต่ไก่โห่ ก่อนเลือก สว. ทำกันเป็นขบวนการ มีเอี่ยวกันทุกระดับ ตั้งแต่หัวหน้าพรรค รัฐมนตรีช่วย และ สส.ปลุกอารมณ์เดือดจาก นางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย ที่ถูกกล่าวหาเป็นมือล็อบบี้ทำโผ ลุกขึ้นโต้แหลกกลางวง กมธ. ปฏิเสธ “เสี่ยหนู” และพรรคภูมิใจไทยไม่เกี่ยวข้องขบวนการฮั้วประกาศเตรียมเดินหน้าฟ้องร้องคนปล่อยข้อมูลเท็จ ตั้งข้อสังเกตแผนซ่อนเล่ห์ ยืมเวที กมธ.ป.ป.ช.ที่ สส.พรรคเพื่อไทยเป็นประธาน กมธ. หลิ่วตาให้สอดไส้เรื่องที่ไม่ได้อยู่ในวาระประชุม นำคนภายนอกที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องมารุมประจานพรรคภูมิใจไทย เชื่อว่า มีเจตนาพิเศษใส่ร้ายหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยโดยเฉพาะเกมฮั้ว สว.ลามหนัก ขยายผลถึง “เสี่ยหนู” ร่วมเปรอะโคลนไปด้วยเอฟเฟกต์เกมฮั้วทำบิ๊กเนมติดบ่วงระนาว ทั้ง “บิ๊กหมง” มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา “บิ๊กเกรียง” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา รวมถึงเหล่า สว.ตัวจี๊ด ตัวตึงเบ็ดเสร็จมี สว.ที่โดนแจ้งข้อหาลอตแรก และถูกล็อกเป้าลอตต่อๆไป น่าจะถูกขึ้นบัญชียาวเป็นหางว่าวปฏิบัติการถอนรากถอนโคน สว.สีน้ำเงินรุกคืบหนัก เผลอๆอาจโดนคดีอาญาเพิ่ม ข้อหาฟอกเงิน-อั้งยี่ ตามมาอีกระลอก อาการน่าห่วงมีความเสี่ยงสูงจะถูกเช็กบิลไม่ต่างจากสภาพ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เฉพาะงานในส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และรองประธานกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ จนกว่าการวินิจฉัยของศาลจะแล้วเสร็จ กรณีผิดจริยธรรมร้ายแรง ใช้อำนาจดีเอสไอแทรกแซงคดีฮั้ว สว.โดยมิชอบหัวหมุนโร่หาหลักฐานไปแก้ต่างในศาลรัฐธรรมนูญ ได้หายใจไม่ทั่วท้อง ยังไม่รู้จะหลุดเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่วิบากกรรมคดีโพยฮั้ว สว.ไล่ล่า ทั้งฝ่ายตรวจสอบและฝ่ายถูกตรวจสอบ อกสั่นขวัญแขวน มีคดีพันตัวอีนุงตุงนัง ต้องลุ้นตัวโก่ง จะฝ่าด่านนิติสงครามไปได้หรือไม่สงครามอำนาจค่ายแดง-น้ำเงิน ยกระดับความเข้มข้น บดขยี้กันรุนแรง ต่างฝ่ายต่างใช้กลไกนิติสงครามฟาดฟันกันยับ แนวโน้มเจ็บหนัก พังด้วยกันทั้งสองฝ่ายความขัดแย้งเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ส่อขยายแนวจากแตกแยก ลามไปแตกหักส่อสะเทือนเสถียรภาพรัฐบาล “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในสถานการณ์ที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีชนักปักหลังทางคดี ต้องแกล้งตาย ขยับตัวช่วยอะไรได้ไม่มาก จำเป็นต้องมีทางออกฉุกเฉิน ให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เปิดปฏิบัติการดูด สส.งูเห่าแต่ละค่ายมาอยู่ในมืออย่างน้อยต้องมีเสียงไม่ปริ่มน้ำ หากความสัมพันธ์ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” มาถึงจุดสิ้นสุดทางเพื่อนกระแสมูลค่ากล้วยที่นำมาล่อให้ย้ายขั้ว พุ่งถึง 55 ล้านบาท ตามที่ สส.พรรคประชาชนประโคมข่าวไฟต์บังคับที่นายใหญ่ต้องใช้บริการ “ผู้กองนัส” โหมตุนแต้มให้รัฐบาลมีความมั่นคงระดับหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยลูกสาว ในห้วงที่สัมพันธภาพ “เพื่อไทย–ภูมิใจไทย” ร้าวลึก ยังไม่รู้จะกลับมาต่อติดได้หรือไม่ตามสภาพหน้างานที่ทั้ง 2 พรรค ยังต้องขับเคี่ยวกันอีกหลายยก มีด่านอันตรายที่เป็นเดิมพันความอยู่รอดรัฐบาลให้ลุ้น ทั้งการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 แม้ค่ายน้ำเงินจะการันตีไม่ล่มกฎหมายงบประมาณ แต่ก็วางใจอะไรไม่ได้มากหรือกรณีวุฒิสภาฉวยจังหวะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญช่วงปลายเดือน พ.ค. เร่งเครื่องกระบวนการเลือกกรรมการองค์กรอิสระทั้ง ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ให้ไวขึ้น ไม่รอคิวเปิดสมัยประชุมสภารอบใหม่ค่ายน้ำเงินเหยียบคันเร่ง โหมยึดองค์กรอิสระเบ็ดเสร็จ ไม่ให้คาราคาซัง มีทั้งทีมกลุ่มอำนาจเก่า–กลุ่มอำนาจใหม่ปนกัน เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองดุลการเมืองเกมวัดพลังขั้วแดง-น้ำเงิน ยังเดินคิวบู๊ไม่สิ้นสุด ในช่วงที่ยังหาจุดรอมชอม ยื่นหมู ยื่นแมวไม่ลงตัวไม่รู้ปลายทางจะมีเส้นทางรอด หรือสิ้นสุดทางลาก!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
