“ชูศักดิ์” เผย เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี ตั้งคนคุมดีเอสไอแทน “ทวี สอดส่อง” ชี้ คดีฮั้ว สว. ยังเดินหน้าต่อได้ ขออย่ามองเป็นการเมือง แดงเพลี่ยงพล้ำน้ำเงิน บอกทำใจให้สบายๆ เป็นกระบวนการศาล
เมื่อเวลา 15.55 น. วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะกำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใครจะมากำกับดูแลแทน ว่า ปกติดีเอสไอขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแล ซึ่งหลังจากนี้ต้องดูว่านายกรัฐมนตรีจะมีนโยบายเช่นใด จะตั้งรัฐมนตรีท่านอื่นมาทำหน้าที่แทนหรือไม่ หรือนายกรัฐมนตรีจะกำกับดูแลเอง ซึ่งกรณีนี้ถือว่าแตกต่าง เพราะเดิมศาลจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมด แต่ครั้งนี้หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะดีเอสไอ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามต่อ ในทางการเมืองคดีที่ดีเอสไอกำลังทำเรื่องฮั้วเลือก สว. จะต้องหยุดจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยเรื่องนี้หรือไม่ นายชูศักดิ์ ระบุว่า เป็นหน้าที่ของดีเอสไอ เขาทำอยู่แล้วไม่เกี่ยวอะไรกัน เพราะศาลสั่งแค่ พ.ต.อ.ทวี หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดีเอสไอไว้ก่อน คดีทั้งหลายทั้งปวงว่าไปตามปกติ และหากมีรัฐมนตรีเข้ามากำกับดูแลแทน พ.ต.อ.ทวี ก็สามารถดำเนินการเรื่องนี้ต่อได้เลย และมาทำหน้าที่รองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ ทางด้านคำถามว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบทางการเมืองหรือไม่ นายชูศักดิ์ เผยว่า เมื่อมีคำร้องเข้าไป ศาลมองว่าอาจจะเป็นไปตามคำร้อง ซึ่งก็หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน ส่วนศาลจะวินิจฉัยอย่างไรเป็นเรื่องในอนาคต

...
เมื่อถามอีกว่า หากมองในมิติการเมืองขณะนี้สีแดงเพลี่ยงพล้ำน้ำเงินหรือไม่ นายชูศักดิ์ หัวเราะก่อนกล่าวตอบว่า ตนไม่อยากจะมองเรื่องแดงหรือน้ำเงินอะไรหรอก แต่อยากให้มองด้วยใจสบายๆ ว่าเป็นเรื่องกระบวนการของศาล เมื่อมีคำร้องเข้าไปศาลก็วินิจฉัย ส่วนรัฐบาลลองตัดสินใจดู จะแต่งตั้งใครไปปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ในช่วงที่ พ.ต.อ.ทวี หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเข้าใจว่าหากจะแต่งตั้งใครต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติ เพื่อไม่ให้ราชการเสียหาย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ในฐานะที่ตนกำกับฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลยังไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ในคำถามว่าเบื้องต้นรัฐมนตรีคนไหนเหมาะสม หรือให้นายกรัฐมนตรีดูแลไปเลย นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบาย ยังไม่รู้ว่าอนาคตเป็นอย่างไร.