“สุดารัตน์” ห่วงเศรษฐกิจทรุดหนัก แนะรัฐทบทวนการใช้งบประมาณปี 2569 เตรียมรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ ชี้สถานการณ์โลกผันผวน-ประชาชนรายได้ลด-หนี้เพิ่ม ต้องลดรายจ่ายภาครัฐที่ฟุ่มเฟือย “สร้างการเมืองสุจริต”

วันที่ 12 พ.ค. 2568 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยหลังลงพื้นที่ พบปะพี่น้องประชาชนหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน โดยแสดงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ทั่วประเทศ โดยระบุว่าขณะนี้ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อย กำลังประสบปัญหารายได้ลดลงอย่างรุนแรง ขณะที่สถานการณ์โลกยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา สงครามการค้าที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า รายงานจาก IMF และธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตเพียงร้อยละ 1 กว่าๆ เท่านั้น ขณะที่ Moody’s Investors Service ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินชั้นนำของโลก ได้ส่งสัญญาณเตือนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจไทย

เสนอรัดเข็มขัดงบฟุ่มเฟือย

คุณหญิงสุดารัตน์ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนร่างงบประมาณปี 2569 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยเสนอให้ “รัดเข็มขัด” ลดงบที่ไม่จำเป็น เช่น งบก่อสร้างอาคาร งบที่จะเอาไปซ่อมอาคารสภาใช้งานมาเพียงห้าปี งบก่อสร้างถนน งบจัดซื้อคุรุภัณฑ์ รถประจำตำแหน่ง และงบศึกษาดูงาน ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเลย ปีนี้คือปีแห่งความไม่แน่นอน รัฐบาลจึงต้องใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสที่สุด

...

คอร์รัปชันในไทยยังสูง

พร้อมยกตัวอย่าง รายงานขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ACT) ประเทศไทย ที่ออกมาชี้ว่าการใช้งบลงทุนในปี 2568 ซึ่งอยู่ที่ 900,000 ล้านบาท แต่มีการประเมินจากภาคเอกชนที่รับงานภาครัฐว่า ต้องจ่ายใต้โต๊ะ หรือมีการคอร์รัปชันสูงถึงร้อยละ 30 คิดเป็นเงินถึง 300,000 ล้านบาท หรือหนึ่งในสามงบประมาณ ที่สูญหายไปเข้ากระเป๋านักการเมือง และข้าราชการขี้โกง ซึ่งควรจะเป็นงบที่นำไปพัฒนาเศรษฐกิจ การศึกษา และสร้างอาชีพให้กับคนไทย

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ยังเน้นย้ำว่า ปีนี้เป็นปีแห่งความไม่แน่นอนจึงต้องสำรองงบประมาณไว้มากที่สุด เพื่อรับมือกับวิกฤตในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากภาษีของสหรัฐฯ สงครามการค้า หรือภัยธรรมชาติต่างๆ

เรียกร้องนายกฯแสดงจุดยืน

พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงจุดยืนจริงจังในการปราบปรามการทุจริต เพราะ “หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก” หากผู้นำไม่จริงใจในการปราบโกง การทุจริตก็จะยังคงอยู่ต่อไป และที่สำคัญจะต้องร่วมกัน “สร้างการเมืองสุจริต” ให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังเตือนด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้ใช้งบประมาณปี 2569 ด้วยการกู้เงินสูงเป็นประวัติการณ์ ดังนั้น “ทุกบาททุกสตางค์เป็นเงินภาษีของประชาชน และเป็นภาระหนี้ที่ต้องจ่ายกันชั่วลูกชั่วหลาน” รัฐบาลจึงต้องใช้งบอย่างคุ้มค่าและซื่อสัตย์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง