“อนุสรณ์” ชี้ ผลเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นบทพิสูจน์ในพลังของประชาชน เชื่อมั่นแนวทางพรรคเพื่อไทย ลั่น งบประมาณปี 69 ไม่ใช่เครื่องต่อรองทางอำนาจ ต้องคำนึงผลประโยชน์ชาติและประชาชน
วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ที่ประชาชนยังคงไว้วางใจเลือก นายอัศนี บูรณุปกรณ์ จากพรรคเพื่อไทย ให้เป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ต่ออีกสมัย ว่า นี่คือบทพิสูจน์ในพลังของประชาชนที่มองเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นในแนวนโยบายที่ชัดเจนของพรรคเพื่อไทย นอกจากนายอัศนี จะได้รับความไว้วางใจด้วยคะแนนที่ชัดเจน สมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ทีมพรรคเพื่อไทย ยังได้รับการเลือกตั้งจำนวนสูงถึง 20 คน จากจำนวน สท. ทั้งหมด 24 คน
นายอนุสรณ์ ระบุต่อไปว่า ผลจากการเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยืนยันในความนิยมในตัวบุคคล แต่ยังสะท้อนถึงความศรัทธาที่มีต่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ขอขอบคุณประชาชนชาวเทศบาลนครเชียงใหม่ที่ร่วมกันส่งสัญญาณแห่งความหวังและการพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกครั้ง ชัยชนะในครั้งนี้คือชัยชนะของพี่น้องประชาชนชาวเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่เชื่อมั่นว่าเมืองเชียงใหม่จะยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างมั่นคงต่อไป ภายใต้การนำของผู้ที่เข้าใจพื้นที่ เข้าใจประชาชน และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง
...
นอกจากนี้ ในเรื่องกระแสข่าวที่บางพรรคการเมืองอาจไม่สนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายอนุสรณ์ มองว่าไม่มีเหตุผลที่พรรคการเมืองใดจะนำร่างงบประมาณมาใช้เป็นเครื่องมือต่อรองกันทางการเมือง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน การเดินหน้าพัฒนาประเทศ งบประมาณเป็นเครื่องมือสำคัญ พรรคที่ถูกโยงว่าอยู่เบื้องหลังการเตรียมการโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ก็ออกมายืนยันแล้วว่าไม่เคยคิดและไม่มีประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น
“ในสถานการณ์ที่ประเทศชาติมีปัญหาหลายด้านทุกภาคส่วนควรร่วมด้วยช่วยกัน นำพาประเทศชาติและประชาชนออกจากวิกฤต คิดเรื่องการเมืองให้น้อยคิดเรื่องบ้านเมืองให้มาก ร่างงบประมาณปี 69 ไม่ใช่เครื่องต่อรองทางอำนาจ แต่เป็นกุญแจในการขับเคลื่อนประเทศ หากจะมีการคว่ำงบประมาณต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโครงการสำคัญและคุณภาพชีวิตของประชาชน ในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังฟื้นตัวจากวิกฤติหลายด้าน ร่างงบประมาณปี 69 คือโอกาสวางรากฐานอนาคตประเทศ หากการเมืองยังเป็นอุปสรรค ก็เท่ากับปิดโอกาสของประเทศชาติและประชาชน”
