"วิสุทธิ์" ย้อนถามทำไม่ต้องทำประชามติเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในเมื่อ สส. ก็เป็นตัวแทนประชาชนอยู่แล้ว หากไม่พอใจอะไรแล้วต้องทำทุกครั้ง มีเงินพอหรือ
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม สส. พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 13 พฤษภาคม จะนำผลการชี้แจงร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าที่ประชุมหรือไม่ว่า คงไม่ได้คุยกัน มีเวลาอีก 2 เดือน ก่อนเปิดสมัยประชุม เป็นหน้าที่รัฐบาลชี้แจง ช่วงนี้เน้นเรื่องงบประมาณ 2569 ก่อน เมื่อถามว่า ทางออกของความขัดแย้งควรจะมีการทำประชามติหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า วันนี้พูดถึงการทำประชามติก็ยังไม่เคยเห็นรัฐมนตรีท่านไหนพูดเรื่องประชามติ ถ้ามีคนเรียกร้องว่าต้องทำประชามติทุกครั้ง แล้วเราจะออกกฎหมายได้หรือไม่ สส. คือตัวแทนประชามติเพราะมาจากประชาชน ต่อไปหากใครเสนอกฎหมายอะไร แล้วเรียกร้องให้ทำประชามติ รอบละ 3,000 ล้านบาทไหวหรือ ถ้ารัฐธรรมนูญทำประชามติอันนั้นเห็นด้วย แต่เรื่องอื่นให้อธิบายความกันก่อน วันนี้ สส. พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ก็ไปทำความเข้าใจกับประชาชน ว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร ไม่ใช่วิ่งไปตามกระแสอย่างเดียว ต้องพูดในข้อเท็จจริง ถึงเวลานั้นจะเป็นอย่างไรค่อยมาว่ากันอีกที วันนี้ต้องเอางบประมาณฯ ให้ผ่านก่อน เพราะเป็นเรื่องใหญ่
เมื่อถามว่า ที่ประชุม สส. พรรคเพื่อไทยวันที่ 13 พ.ค. จะมีการพูดถึงเรื่องงบประมาณ 2569 ที่จะเข้าสภาว่าวันที่ 28-30 พฤษภาคมจะทันหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เราต้องดูว่าส่วนไหนควรจะสนับสนุน ส่วนไหนควรจะช่วยกันตัดออกไป ไม่ใช่ฝ่ายค้านฝ่ายเดียวที่จะเป็นคนตัดงบประมาณ เราที่เป็นรัฐบาลเราก็ต้องตัดด้วย เพราะกรรมาธิการงบประมาณของฝ่ายค้านและรัฐบาลมีสัดส่วนเท่ากัน หากดูอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ทำแล้วจะเกิดปัญหาใช้เงินมากแล้วไม่เกิดประโยชน์ ก็เป็นหน้าที่กรรมาธิการที่ต้องทำหน้าที่ ช่วยกันดูและช่วยกันตัด และในพรรคเพื่อไทยก็ต้องช่วยกันพูดว่าอะไรที่เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์
...
ประธานวิปรัฐบาลยังกล่าวถึงกรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ไม่น่าจะมีแรงกดดันรัฐบาลเพราะไม่เกี่ยวกับรัฐบาล นายทักษิณไม่มีหน้าที่อะไรในรัฐบาล ไม่ได้มาควบคุม เพียงแต่บางเรื่องรัฐบาลหรือรัฐมนตรีอาจไปปรึกษากับนายทักษิณในเรื่องที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว เช่น การปราบปรามยาเสพติด โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่นายทักษิณไม่ได้มานั่งกำกับในเรื่องรัฐบาล ตนเป็นประธานวิปรัฐบาลยังไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากนายทักษิณสักครั้งว่าให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ จึงเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไรกับรัฐบาลได้เลย