“ภราดร” พลิกวิกฤติเป็นโอกาส พาสื่อทัวร์รัฐสภา ย้ำ ห้องประชุมใหญ่จุได้ 1,500 คน และพิพิธภัณฑ์มีความจำเป็น หวังให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการเมืองการปกครอง แจงโต้ “หมออ๋อง ปดิพัทธ์” เชื่อ คกก. ไม่กล้าตรวจรับงานที่ไม่สมบูรณ์
วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 นำสื่อมวลชนประจำรัฐสภา เดินชมบริเวณอาคารรัฐสภาในส่วนที่กำลังเป็นประเด็นการของบประมาณปี 2569 เพื่อสร้างต่อเติมพื้นที่ อาทิ ห้องจัดเลี้ยงสัมมนาที่สามารถรองรับคนได้ 1,500 คน ชั้น B2 ที่ของบฯ ไป 99 ล้านบาท โดยนายภราดร กล่าวว่า ต้องปรับปรุงไฟให้สว่างกว่าเดิม พร้อมติดตั้งระบบเสียง เพราะเป็นห้องโล่งๆ ไม่เก็บเสียง เมื่อเจ้าหน้าที่ของบฯ มาตนเห็นถึงความจำเป็น ห้องประชุมนี้เคยใช้ประชุม APPF แต่เราไม่มีระบบเสียง ต้องเช่าเครื่องระบบเสียงหลายล้านบาท หากมีห้องที่พร้อมใช้งานก็จะเป็นประโยชน์ นอกจากสมาชิกรัฐสภาแล้ว ประชาชนสามารถขอใช้ห้องในการจัดงานต่างๆ ได้
นายภราดร กล่าวต่อไปถึงโซนพิพิธภัณฑ์รัฐสภา บริเวณชั้น MB1, ชั้น 1 และชั้น 11 (ชั้นเครื่องยอดของอาคารรัฐสภา) ที่มีพื้นที่ทั้งหมด 6,000 ตารางเมตร ตนให้โจทย์ไปว่าเราต้องมีพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ต้องทันสมัย เพราะพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยมีน้อยที่จะดีเหมือนต่างประเทศ ที่นี่จะกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ในด้านการเมืองการปกครอง งานนิติบัญญัติ ส่วนจะคุ้มค่าหรือไม่ต้องดูว่าสิ่งที่ได้กับการลงทุนมากน้อยแค่ไหน หลักใหญ่ตนให้โจทย์ว่าคนที่มาแล้วอยากจะกลับมาอีก เชื่อว่าจะกลายเป็นอีกจุดเช็กอินของสภา และจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน นักเรียน นักศึกษาที่เข้ามาเยี่ยมชมจำนวนมากในแต่ละวัน ประเทศที่เจริญแล้วจะมีพิพิธภัณฑ์อยู่ทั่วเมือง เช่น อังกฤษ ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ด้านต่างๆ เป็นแหล่งเรียนรู้ของประชาชนในเรื่องของการเมืองการปกครอง นิติวิธีในกระบวนการของรัฐสภา
...


สำหรับการพิจารณาโครงการต่างๆ มีหลักใหญ่ 3 หลัก คือ 1. หลักความจำเป็น 2. หลักความคุ้มค่ากับงบประมาณที่จะใช้หรือไม่ และ 3. หลักของความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ตนเชื่อว่าทั้ง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ในฝ่ายนโยบาย ได้คำนึงถึงความจำเป็น แต่ทั้งนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของบฯ ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งปลายเดือนพฤษภาคมจะมีการพิจารณางบประมาณปี 2569 เป็นหน้าที่หลักของ สส. รวมถึงสภาฯ ด้วย หาก กมธ. งบประมาณปี 2569 เห็นว่าโครงการไหนไม่มีความจำเป็น ก็ปรับลดงบฯ ได้ ส่วนจะอนุมัติหรือไม่ก็อยู่ที่ผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการที่จะพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ ระบุว่างานน่าจะเสร็จตั้งแต่ก่อนรับงานแล้วหรือไม่ ทำไมต้องมาของบฯ สร้างเพิ่มเติม นายภราดร ระบุ เข้าใจว่าในแบบแปลนใหญ่มีทั้งพิพิธภัณฑ์และห้องประชุมขนาดใหญ่ในการเตรียมพื้นที่เอาไว้ ส่วนในการรับงานที่ผ่านมาของสภาฯ ครั้งแรกไปไม่รวมถึงส่วนของพิพิธภัณฑ์และห้องประชุม ฝ่ายตรวจรับงานเขาตรวจไม่ได้
“ข้าราชการไม่กล้าตรวจรับงาน ถ้าตรวจรับงานไปแล้ว งานที่ไม่สมบูรณ์แบบตามแบบ ติดคุก ผมจึงเชื่อว่าเขาไม่กล้าทำ สภาฯ พอสร้างจริงกลายเป็นมีเนื้อที่ 400,000 ตารางเมตร หมายความว่าจำเป็นจะต้องปรับลดเนื้องานเป็นบางส่วน ผมเชื่อว่าด้วยคณะกรรมการตรวจรับของสภาฯ คงไม่ชุ่ยขนาดนั้น”

