รองผู้ว่าการ สตง. แจง กมธ.มาตรฐานการก่อสร้างฯ เผย 8 ขั้นตอนข้อมูลการก่อสร้างตึก แก้แบบก่อสร้าง 9 ครั้ง ทั้งปล่องลิฟต์-โครงสร้าง-การก่ออิฐ แถมขยายเวลาสร้าง ส่อพิรุธฮั้ว ซื้อเอกสารประกวดราคาก่อนควบรวมเป็นกิจการร่วมค้า
วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้เชิญตัวแทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้าชี้แจงสรุปสาเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยนายสุทธิพงศ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับมอบหมายจาก นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง. ที่ติดภารกิจ มาชี้แจงว่า ตนนำข้อมูลการก่อสร้างตึก สตง. ทั้ง 8 ขั้นตอนมาชี้แจง คือ
1. การเลือกพื้นที่ ซึ่งเปลี่ยนจากสถานที่เก่า ที่อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี มาที่ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เนื่องจากพื้นที่เดิมเกิดน้ำท่วม
2. แนวการออกแบบ ยึดเอกลักษณ์ความเป็นไทย อัตลักษณ์ขององค์กร โครงสร้างทางวิศวกรรมเพื่อรองรับแรงแผ่นดินไหว รวมถึงเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รวมถึงความสามารถในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรในอนาคต
3. สาเหตุการถล่มของอาคาร เนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เกิดเหตุแผ่นดินไหวบริเวณประเทศเมียนมา ขนาด 8.2 ทำให้รู้สึกสั่นไหวเป็นบริเวณกว้างในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นเหตุให้อาคาร สตง. ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่ม ส่วนสาเหตุที่ทำอาคาร สตง. ถล่มอันเกิดจากแผ่นดินไหวนั้น อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
...
4. ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นการจ้างออกแบบของกลุ่มค้า โดยวิธีการคัดเลือก จากการให้คะแนนของคณะกรรมการดำเนินการออกแบบ วงเงินจ้าง 73 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 สตง. มีหนังสือถึงนายกสภาสถาปนิก และนายกสภาวิศวกร เพื่อขอความอนุเคราะห์รายชื่อนิติบุคคลผู้มีผลงานออกแบบก่อสร้างอาคารสำนักงานเพื่อใช้ประกอบการดำเนินการคัดเลือกผู้ออกแบบ จากนั้นวันที่ 15 มิถุนายน 2561 คณะกรรมการดำเนินการจ้างออกแบบได้ส่งหนังสือเชิญผู้ให้บริการมายื่นข้อเสนอจำนวน 24 ราย โดยคัดเลือกรายชื่อบริษัทจากผลงานการออกแบบอาคารสำนักงาน อาคารมูลค่า 750 ล้านบาทขึ้นไป
ต่อมาวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 มีผู้ให้บริการมายื่นข้อเสนอจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย บริษัทร่วมค้า บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท สแปน คอนซัลแตนท์ จำกัด และกลุ่มร่วมค้า บริษัท ดีไซน์+ดีเวลลอป จำกัด และ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทที่ได้คะแนนสูงสุดถึง 91.12 คะแนน คือ บริษัท ฟอ-รัม อาร์คิเทค จำกัด และบริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ ใช้การจัดซื้อจัดจ้างการก่อสร้างอาคารใช้วิธี E-bidding โดยมีราคากลางอยู่ที่ 2,522,153,000 บาท โดยมีผู้สนใจซื้อเอกสารประกวดราคาจำนวน 16 ราย โดยปรากฏชื่อบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) แต่มีผู้ยื่นเสนอราคาจำนวน 7 ราย ในนามซึ่งมีการยื่นประมูลของสองบริษัทในนาม กิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี และเป็นผู้ชนะประมูลโครงการดังกล่าวในวงเงิน 2,136 ล้านบาท โดยมีการลงนามในสัญญาจ้างวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 มีระยะในสัญญา 1,080 วัน ตกลงจ่ายค่าจ้าง 36 งวด
การแก้ไขเพิ่มเติมและในรายละเอียดสัญญาจ้างก่อสร้างมีการแก้ไขเพิ่มเติม 9 ครั้ง ซึ่งเป็นการแก้ไขแบบการก่อสร้าง อาทิ การแก้ไข CORE LIFT อาคาร A, แบบบันได อาคาร B, CORE WALL อาคาร A ในครั้งที่ 4 และปรากฏการแก้ไข Core Wall อาคาร A อีกในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 6 และในการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 8 ผู้รับพบว่าผู้รับจ้างแจ้งความประสงค์ขอปรับแก้ไขงวดงานก่อสร้าง เนื่องจากรายการงานในงวดงานที่ระบุไว้ในสัญญามีหลายรายการที่ไม่สอดคล้องกับขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ควรจะเป็น จำเป็นต้องปรับแก้ไขรายการงานที่ติดขัดกับขั้นตอนการทำงานจำนวน 18 รายการ ในงวดที่ 20-35 ประกอบด้วย งานโครงสร้าง, งานก่ออิฐ, งานผิวผนัง, งานฝ้าเพดาน, งานพื้นและงานผิวพื้น, งานฝังยึดราวบันได, งานสำเร็จบันได, งานประตูหน้าต่าง, งานสุขภัณฑ์และอุปกรณ์, งานบัวเชิงผนัง, งานสถาปัตยกรรมห้องเครื่อง, งานหลังคา, งานเบ็ดเตล็ดและอื่นๆ, งาน Curtain Wall, การตกแต่งภายใน, งานป้ายสัญลักษณ์, งานเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และงานภูมิสถาปัตยกรรมและงานภายนอก
สำหรับการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 9 นั้น เป็นการปรับแผนการทำงานใหม่โดยนำระยะเวลาการทำงานจำนวน 1,080 วันมานับต่อจากวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาตามแผนการทำงานใหม่ ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้าง งานจ้างควบคุมงาน จะใช้วิธีการคัดเลือก วงเงิน 76,800,000 บาท โดยการตั้งคณะกรรมการดำเนินการจ้างควบคุมงาน หนังสือและส่งหนังสือเชิญผู้ให้บริการมายื่นข้อเสนอจำนวน 19 ราย มีผู้ให้บริการมายื่นข้อเสนอจำนวน 5 ราย นิติบุคคลซึ่งกลุ่มนิติบุคคลร่วมค้า PKW เป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากคะแนนสูงสุด ได้รับวงเงินค่าจ้างเป็นเงิน 74,653,200 บาท
5. การตรวจรับพัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง
6. ใบอนุญาตแผนผังบริเวณโครงการ ซึ่ง สตง. ได้มีหนังสือแจ้งและส่งแผนผัง แบบแปลน รายการประกอบแบบและรายชื่อผู้ควบคุมงานให้กับทางกรุงเทพมหานคร และได้มีหนังสือตอบกลับในวันที่ 12 เมษายน 2566 ว่า จากการพิจารณาเห็นว่าไม่ขัดต่อกฎกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แต่อย่างใด
7. รายงานผลทดสอบคอนกรีต ซึ่งผู้รับจ้างก่อสร้างได้ขออนุมัติวัสดุคอนกรีตผสมเสร็จผลิตภัณฑ์ของบริษัท ทีพีโอ คอนกรีต จำกัด ใช้สำหรับฐานรากและเสาเข็ม ซึ่งมีวิศวกรโยธาระดับสามัญลงลายมือชื่อรับรองรายการคำนวณส่วนผสมคอนกรีต พร้อมทั้งส่งตัวอย่างไปทดสอบที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการทดสอบคุณภาพวัสดุที่ใช้ในงานก่อสร้างตามสัญญา
8. รายงานการควบคุมงานของผู้ควบคุมงาน ซึ่งจะมีการรายงานข้อมูลที่สามารถแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติหรือการแสดงสิ่งที่ผู้ให้บริการ ผู้ควบคุมงานได้ดำเนินการในแต่ละเดือนพร้อมหลักฐานและภาพประกอบ.
(ภาพ : ศรันย์ พงษ์สวัสดิ์)