ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับงาน “ครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง” หน่วยงานเสาหลักด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 1-3 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่รวบรวมข้อมูล ความเป็นมา และบทบาทความสำคัญของกระทรวงการคลัง ตลอดระยะเวลา 15 ทศวรรษ รวมถึงการออกบูธของ 32 หน่วยงานในกำกับกระทรวงการคลัง
หนึ่งในบูธที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ ต้องยกให้กับ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. ที่นำรถกระบะมาร่วมออกบูธ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สร้างงาน สร้างอาชีพ” ผ่านรูปแบบของ “ฟู้ดทรัค” และกระบะขนสินค้า ที่สื่อถึงมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อเช่าซื้อ “บสย. SMEs PICK-UP” มาตรการสุดฮอตที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม และได้รับการตอบรับอย่างมากในช่วงงานมอเตอร์โชว์ 2025 ที่ผ่านมา

“สิทธิกร ดิเรกสุนทร” กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า การนำรถกระบะมาออกบูธในงานนี้ เพื่อสื่อสารการสร้างงาน สร้างอาชีพ สำหรับ SME ที่ต้องการเข้าถึงรถกระบะเป็นเครื่องมือประกอบอาชีพ เช่น เกษตรกร ผู้รับเหมาก่อสร้าง ขนส่งสินค้า ค้าขาย และฟู้ดทรัค ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ผ่าน “กลไกค้ำประกันสินเชื่อ” ซึ่งเป็นกลไกทางการเงินในการขับเคลื่อนนโยบายทางการคลังของรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยเหลือ SMEs ให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น สร้างความมั่นใจให้สถาบันการเงิน (ไฟแนนซ์) ในการอนุมัติสินเชื่อ (Approval Rate) ให้กับ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องการรถกระบะเป็นเครื่องมือทำกิน
“วันนี้ประเทศไทย มีผู้ประกอบการรายย่อย และเอสเอ็มอี จำนวนไม่น้อยที่กำลังประสบปัญหาการดำเนินธุรกิจ ปัญหาใหญ่ๆ หนีไม่พ้น เรื่องสภาพคล่อง ไม่ว่าจะเป็นการขาดเงินทุนหมุนเวียน เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน กู้ยากเพราะไม่มีข้อมูลเดินบัญชี โดยเฉพาะในกลุ่มรายย่อย เจ้าของกิจการเล็กๆ อาชีพอิสระ”
จากปัญหาดังกล่าว เป็นเป้าหมายของ บสย. ในการเข้าไปปลดล็อก ช่วย SMEs คนตัวเล็ก สามารถเข้าถึงสินเชื่อ เสริมสภาพคล่อง เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนสู่การต่อยอดธุรกิจ
“สิทธิกร” กล่าวว่า บสย. เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง ซึ่งก่อตั้งมาแล้ว 34 ปี บทบาทหลักของ บสย. จะเข้าไปแก้ Pain Point ให้ SMEs ใน 2 เรื่อง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของ SMEs ในประเทศไทย ปัญหาแรกคือ “ขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อ” ไม่ว่าจะเป็นเงินสด ที่ดิน และสอง “ขาดคนค้ำประกันสินเชื่อ” โดย บสย. จะออกหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อให้ผู้กู้ที่ขาดหลักประกันใช้ยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เพิ่มโอกาสให้ SMEs ในการขอสินเชื่อมากยิ่งขึ้น

อีกบทบาทคือทำหน้าที่เป็น “ที่ปรึกษาทางการเงิน” ให้คำปรึกษาด้านการเงินให้ SMEs ทั้งเตรียมความพร้อมให้ SMEs ในการขอสินเชื่อ และเพิ่มศักยภาพให้ SMEs มีความรู้ ความเข้าใจในการบริหารกระแสเงินสด การทำธุรกิจ เพื่อปลดล็อก SMEs จากปัญหาสภาพคล่อง สร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการให้คำปรึกษาในการบริหารหนี้ เพื่อช่วยแก้หนี้ให้กับ SMEs ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่ภาครัฐมุ่งแก้ปัญหาในภาพรวมทั้งหนี้ในระบบ และนอกระบบ
ปัจจุบัน บสย. มีมาตรการช่วย SMEs ลูกหนี้ค้ำประกันที่ถูกจ่ายเคลม (จ่ายค่าประกันชดเชย) ลด ปลดหนี้ แก้หนี้ยั่งยืน ผ่านมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” เป็นมาตรการแก้หนี้ของ บสย. ที่มีความยืดหยุ่นตามความสามารถของลูกหนี้ จุดเด่นคือ ยืดหนี้ยาวสูงสุด 7 ปี ช่วย SMEs “ผ่อนน้อย เบาแรง” “ตัดเงินต้น ก่อนตัดดอก” ดอกเบี้ย 0% ช่วยให้ลูกหนี้อยู่รอด อยู่ได้ และกลับไปเป็นลูกหนี้ปกติได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ สำหรับ SMEs ที่ต้องการ “ปลดหนี้” บสย. ยังให้ความช่วยเหลือพิเศษ “ลดต้นสูงถึง 30%” พร้อม “ปลดดอก” เพื่อต่อลมหายใจให้ SMEs สามารถกลับมาเดินหน้าต่อได้

สำหรับ SMEs ที่สนใจ สามารถเข้ามาตรวจสุขภาพทางการเงิน พร้อมจองคิวขอรับคำปรึกษาที่ LINE OA : @tcgfirst ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือติดต่อที่สำนักงานเขตของ บสย. ทั้ง 11 สาขา ครอบคลุมทุกภูมิภาค และ บสย. Call Center โทร. 02-890-9999