“เซีย จำปาทอง” ซัด นายกฯ อิ๊งค์-รมว.แรงงาน ค่าแรง 400 บาททำไม่ได้ก็ต้องพิจารณาตัวเอง ไม่ใช่พูดติดตลกกลบเกลื่อนความล้มเหลวของตนเอง
วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า เมื่อวานนี้เป็นวันแรงงานสากล ตนพร้อมด้วยเพื่อน สส.จากพรรคประชาชน และตัวแทนกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ร่วมกันเดินขบวนจากบริเวณหน้ากระทรวงคมนาคมไปยังลานคนเมืองเพื่อเรียกร้องและรณรงค์ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน โดยระหว่างที่ตนอยู่ในขบวนก็มีสองเหตุการณ์ที่ทำให้อดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวถึงในวันนี้ คือ 1. นายกฯ แพทองธารไม่ยอมตอบคำถามเรื่องค่าแรงขั้นต่ำในวันแรงงาน 2. รมว.แรงงานพูดติดตลกบนเวทีว่าไม่ต้องถามถึงค่าแรง 400 บาทแล้ว เพราะตนเองก็หน้าพังยับ (อับอาย) ที่ประกาศแล้วไม่สามารถทำได้
นายเซียกล่าวว่า ทั้งสองกรณีนี้สะท้อนวิกฤตภาวะผู้นำของผู้นำไทยทั้ง 2 คน กรณีแรกนายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯ ที่มาจากพรรคซึ่งเคยหาเสียงด้วยนโยบายเรือธงเรื่องการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวัน และเคยให้สัมภาษณ์ว่าสามารถปรับขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาทเท่ากันทั่วประเทศได้เมื่อปีที่ผ่านมา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถปรับขึ้นได้
กรณีที่สองแย่ไม่ต่างกัน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เนื่องจากเป็นเจ้ากระทรวงที่มีหน้าที่กำกับดูแลการปรับขึ้นค่าแรง แต่กลับมาพูดติดตลกในวันแรงงานว่าคิดว่าค่าแรง 400 บาทควรจะจบได้ เพราะอยากนำมาประกาศเป็นของขวัญวันแรงงาน แต่สุดท้ายก็ไม่จบ แต่เรายังต้องเดินหน้าต่อไป พร้อมกับระบุว่า “ผมไม่กล้าประกาศว่าวันไหน เวลาใด รู้สึกว่าหน้าตายับเยินหมดแล้ว เพราะรับปากแล้วทำไม่ได้” รวมถึงพูดติดตลกต่อว่าขอเลิกถามกันเถอะ เพราะอับอายพอแล้ว
นายเซียกล่าวต่อไปว่า ตนอยากถามกลับไปว่า ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องรับผิดชอบหรือพิจารณาตัวเองว่าไม่มีความสามารถหรือคุณสมบัติที่มากพอไม่ใช่หรือ แต่สิ่งที่เราเห็นคือการกลบเกลื่อนทำเป็นตลก ท่ามกลางน้ำตาและความหวังของพี่น้องแรงงานที่หวังว่าจะได้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท
...
“ทั้งหมดนี้สะท้อนภาพรวมทิศทางของแรงงานไทยในวันแรงงานสากลได้เป็นอย่างดี ว่าเรายังคงไม่มีความหวัง ตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้ความมืดมนจากการบริหารงานของรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอย่างพิพัฒน์ รัชกิจประการ ถ้าทำไม่ได้ก็ควรพิจารณาตัวเอง” นายเซียกล่าวทิ้งท้าย