วุฒิสภาจ่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ วาระ 2-3 ในสมัยประชุมหน้า ปัจจุบันยังอยู่ในชั้น กมธ.วิสามัญ ด้านกรมควบคุมโรค เตือน กฎหมายเดิมยังคงมีผลใช้บังคับ ฝ่าฝืนมีโทษ
วันที่ 26 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งที่ประชุมวุฒิสภา มีมติรับหลักการในวาระแรก เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 ภายหลังผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระที่ 2 และ 3 ไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 โดยสามารถโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้นั้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมวุฒิสภาได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 27 คน แปรญัตติภายใน 7 วัน ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในส่วนของวุฒิสภา และเป็นช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา โดย นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยสั้นๆ ว่า ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จะกลับเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภา หลังวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป โดยมีกำหนดการที่วางไว้ว่าจะให้ผู้แปรญัตติเข้ามาชี้แจงวันที่ 17 กรกฎาคม 2568
...
ทางด้าน นายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่เกิดกระแสข่าวจำนวนมากบนโลกออนไลน์ว่า ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ อนุญาตให้โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้แล้ว หรือสามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทำให้ประชาชนหรือผู้ประกอบการร้านค้ากระทำการที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
กรมควบคุมโรค ขอชี้แจงว่าปัจจุบัน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ยังคงมีผลใช้บังคับ ส่วนร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นวุฒิสภา ประชาชนรวมทั้งผู้ประกอบการยังคงต้องปฏิบัติตามหลักการใน พ.ร.บ.ฉบับเดิม และระมัดระวังไม่กระทำการที่อาจเข้าข่ายเป็นความผิด ทั้งในเรื่องการฝ่าฝืนมาตรการควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 50,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
ส่วนการขายในเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถขายได้ 2 ช่วงเวลาตามเดิม คือตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. และตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น. หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงมาตรการอื่นๆ ด้วย.