พรรคกล้าธรรม อ้อนคนเมืองคอนเลือก “ก้องเกียรติ” เป็น สส. “ไผ่” กางโพลเข้าวินแน่ แจงคนใต้ ไม่ได้เป็นพรรคลูกใคร “ธรรมนัส” ขอคะแนน เลือกคนมีคอนเนกชันเพื่อแก้ปัญหา “นฤมล” ลั่น เป็นพรรคใหม่แต่ใจใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 24 เมษายน 2568 พรรคกล้าธรรม (กธ.) เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงที่สนามโรงเรียนพิปูนสังฆรักษ์ประชาอุทิศ ต.เขาพระ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ช่วย นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ หรือ บิ๊กโอ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขตเลือกตั้งที่ 8 ของพรรคกล้าธรรม โดยมีแกนนำพรรค นำโดยนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรค นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะนายทะเบียนพรรค รวมถึง สส.และสมาชิกพรรคกล้าธรรม มาร่วมปราศรัย โดยมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาฟังการปราศรัยท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตั้งแต่ช่วงเย็น
นายไผ่ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า เราหวังเต็มที่อยากจะมีตัวแทนของชาวนครศรีธรรมราชเพื่อไปสะท้อนปัญหา เข้ามาที่นี่รู้สึกแปลกใจอย่างหนึ่งที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ตอนนั่งมากับคนขับรถบอกมาว่าที่นี่มีโรงแรมราคาเป็นหมื่น แต่ทำไมพี่น้องยังจนอยู่ ยังเป็นหนี้อยู่ ทำไมยังไม่อยู่ดีกินดี ตนเชื่อว่าครั้งนี้นายก้องเกียรติชนะแน่ และขอบอกสนามเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญมาก ไม่ใช่สนามสำหรับใครที่ทำความผิดแล้วส่งใครมาลงแทน หรือไม่ใช่สนามที่ใครผิดหวัง ตกจากที่อื่นแล้วมาลงที่นี่ แต่นายก้องเกียรติ รอที่จะลงจากที่นี่ ครั้งที่แล้วผิดหวังไป แต่เขาก็รอที่จะลง คนนี้คนจริง พรรคกล้าธรรมเราไม่ใช่พรรคลูกของใคร เราจะทำตามแนวทางของเรา จะทำทุกอย่าง ต่อสู้ทุกอย่างเพื่อประชาชน เชื่อว่าชนะแน่นอน โพลทุกอย่างก็ชนะ
...
ขณะที่ นายชนนพัฒน์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม ปราศรัยว่า คู่แข่งชอบพูดเสมอว่านายก้องเกียรติไม่มีทางชนะเขาได้แน่นอน พวกเราทำให้เขาเห็นได้หรือไม่ เอาไปตบปากพวกเขา พวกที่คอยดูถูกพวกเรา มันเป็นปมในใจที่ทำให้ตนรู้สึกมีความแค้น รู้สึกว่าเราต้องสู้ เวลาพูดในหลายที่มักจะให้เราเป็นตัวรองเสมอ แต่ด้วยความใจสู้ของเรา ต่อให้เป็นรองขนาดไหนเราก็จะสู้จนนาทีสุดท้าย แต่การสู้ของพวกเราจะบังเกิดผลไม่ได้ถ้าไม่ได้ประชาชน วันนี้ต้องช่วยกันสอนมวยพวกที่สบประมาทพวกเรา
“คนอื่นมักบอกว่าเราเป็นพรรคลูกของพรรคการเมืองหนึ่งในรัฐบาล ซึ่งผมรู้ว่าพี่น้องชาวใต้ยังไม่ประทับใจในเรื่องนี้ จึงอยากมาการันตีพี่น้องประชาชนว่า พวกเราไม่ใช่พรรคลูกของพรรคใด”
จากนั้นนายก้องเกียรติ ขึ้นปราศรัยว่า ตนเป็น ส.อบจ. ได้แค่ 2 ปี ก็มีการเปิดรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต จึงลาออก แต่ไม่ได้รับความไว้วางใจให้ลงสมัคร สส. ตนตั้งหน้าตั้งตารอและประเมินดูแล้วว่าถ้าอยู่ที่เดิมคงไม่ได้ลงสมัคร สส. ก็เดินออกมา ซึ่งมีผู้คนหลายคนถามว่าทำไมมาลงพรรคนี้ ตนก็ถามกลับว่าแล้วจะให้ตนอยู่กับใคร บางพรรคเขาก็มีคนของเขาอยู่แล้ว บางพรรคเขาก็มีทายาทอยู่แล้ว มันมีพรรคๆ เดียวที่เปิดให้คนมีความสามารถ มีความตั้งใจที่อยากจะเป็น สส. คือ พรรคกล้าธรรม ตนไม่ได้มาเป็นตัวแทนของใคร และตนไม่ได้ถูกหลอกให้มาลง ตนมีความตั้งใจมาลง เชื่อว่าในบรรดาผู้สมัคร สส.ตนอยู่กับชาวบ้านมากที่สุด ไม่น้อยกว่าใครสักคน และเชื่ออีกว่าสิ่งที่ทำมาในอดีตมันจะหนุนนำให้ตนประสบความสำเร็จ
ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส ขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า จ.นครศรีธรรมราช มี สส.ตั้ง 10 คน แต่ทำไมไม่มีรัฐมนตรีสักคน ทั้งที่จังหวัดนี้คือเมืองหลวงของชาวใต้ เราต้องคิดแล้วอันนี้ เป็นศักดิ์ศรีของคนนครศรีธรรมราชใช่หรือไม่ การเลือกคนไปเป็น สส. ต้องเป็นขี้ข้าประชาชน ไม่ใช่เจ้าคนนายคน ก่อนหาเสียงก้มกราบชาวบ้าน พอได้เป็นแล้วก็ต้องก้มกราบเหมือนเดิม ปัญหาในพื้นที่มีหลายเรื่องต้องหาคนที่ใจถึงพึ่งได้ ถนน 4189 จาก อ.พิปูนไป อ.ท่าศาลา หลายคนเป็น สส. รับปากแล้วรับปากอีก แต่ไม่ได้ทำ เพราะเลือกคนที่ไม่มีคอนเนกชั่น ถ้าได้นายก้องเกียรติ เป็น สส. เป็นน้องธรรมนัส มีพลัง มีมือในการการสร้างถนนสายนี้
ทั้งนี้ ตนเป็นผู้จัดการรัฐบาลตั้งแต่ชุดที่แล้วเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และถ้าท่านได้เป็นนายกรัฐมนตรีต้องทำอย่างไรให้ประชาชนได้รับความสุข ขออย่างเดียวการเป็นนักการเมืองขอให้คนในพื้นที่รัก ประชาชนมีความสุข วันนี้ขอคนพิปูนเข้าคูหาเลือกนายก้องเกียรติ
ทางด้าน นางนฤมล ปราศรัยว่า มีพรรคร่วมรัฐบาลส่งด้วยกันถึง 3 พรรคการเมือง เราขอโอกาสให้กับนายก้องเกียรติ ให้กับพรรคกล้าธรรมได้รับใช้ประชาชนในเขต 8 นายก้องเกียรติทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด พรรคกล้าธรรมเหมือนจะเป็นพรรคใหม่ แต่เราไม่ได้ใหม่ ปี 2562 ตอนอยู่พรรคเก่าก็หาเสียงกันอยู่แถวๆ นี้ ปี 2566 ก็หาเสียงที่นี่ทั้ง 10 เขต ส่วนในปี 2568 เราหาเสียงที่เขต 8 เขตเดียว เราหวังว่าจะได้รับความเมตตาจากประชาชน พรรคกล้าธรรมเป็นพรรคน้องใหม่ที่ใจใหญ่ ดูที่ปรึกษาพรรคเสียก่อนว่าใหญ่ขนาดไหน เราเป็นพรรคที่ไม่มีก๊วน ไม่มีสาย ไม่ต้องบอกว่านายก้องเกียรติเป็นสายไหน เรามีสายเดียวในพรรคกล้าธรรม คือสายธรรมนัส
จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ว่าวันที่ 25 เมษายน 2568 พรรคกล้าธรรมจะจัดเวทีใหญ่ คาดว่าจะมีประชาชนมาฟังปราศรัยไม่ต่ำกว่า 15,000 คน ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอช้างกลาง.