พิธีพระศพ “สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส” เสาร์ที่ 26 เมษายนนี้ “นายกฯ แพทองธาร” มอบหมาย “ชูศักดิ์” เป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาลไทย เข้าร่วม ณ นครรัฐวาติกัน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 เมษายน 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาลไทย ในการเข้าร่วมพิธีพระศพของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกและนครรัฐวาติกัน ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นนครรัฐวาติกัน ณ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกและนครรัฐวาติกัน ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 07.35 น. (เวลานครรัฐวาติกัน) ณ ที่ประทับในนครรัฐวาติกัน ด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา เนื่องจากพระอาการประชวรด้วยโรคหลอดพระวาโยอักเสบ
ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงมีพระนามเดิมว่า ฆอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ (Jorge Mario Bergoglio) และได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา องค์ที่ 266 แห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ในปี 2556 ซึ่งนับเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์แรกจากภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยทรงเป็นผู้นำทางศาสนาที่ได้รับการเคารพอย่างสูงจากประชาคมระหว่างประเทศ ทรงอุทิศพระองค์ในการส่งเสริมสันติภาพ ความเมตตา และความเข้าใจอันดีระหว่างศาสนา ทรงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความปรองดอง ส่งเสริมสันติภาพในทั่วทุกมุมโลก เข้าถึงผู้ด้อยโอกาสและยากจน จนได้รับการขนานพระนามว่าเป็น “พระสันตะปาปาของผู้ยากไร้” (Pope of the Poor)
...
รวมถึงทรงให้ความสำคัญกับประเด็นระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสนับสนุนสิทธิของผู้อพยพ จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีโดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ และการยุติสงคราม เป็นต้น ซึ่งแม้จะทรงเผชิญกับปัญหาสุขภาพแต่ยังทรงปฏิบัติภารกิจจนถึงช่วงสุดท้าย เพื่อประทานพรให้แก่ประชาชนที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ได้เคยเสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2562 และได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมถึงได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

โดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีสารแสดงความเสียใจในนามรัฐบาลและประชาชนชาวไทย พร้อมยกย่องพระองค์ที่ทรงเป็นต้นแบบแห่งความเมตตา ความกล้าหาญทางศีลธรรม ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความมุ่งมั่นในการรักษาสันติภาพ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้คนจำนวนมาก ทุกศาสนา และทุกมุมโลก พร้อมย้ำว่าการเสด็จเยือนประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ของพระองค์ในปี 2562 จะยังคงถูกจารึกไว้ในความทรงจำของคนไทยด้วยความซาบซึ้งใจตลอดไป
ทั้งนี้ นายชูศักดิ์ ในฐานะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลไทย มีกำหนดการเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังนครรัฐวาติกัน วันนี้เมื่อเวลา 09.05 น. ที่ผ่านมา เพื่อไปเข้าร่วมพิธีพระศพ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ณ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน ในวันที่ 26 เมษายน 2568 ตามเวลาท้องถิ่นต่อไป โดยประเทศไทยและนครรัฐวาติกัน ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2512 ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับนครรัฐวาติกันเป็นไปอย่างราบรื่น.