ภายหลังจากที่อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้สายการบิน รวมทั้งท่าอากาศยานทั่วโลก หันมาปรับกลยุทธ์เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับกับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA ได้เคยประเมินไว้ว่าในปี 2577-2578 หรือในอีก 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีปริมาณผู้โดยสารของสายการบินเข้า-ออกเพิ่มสูงขึ้น เป็นอันดับที่ 9 ของโลก

ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับรายงานการเติบโตของสายการบินในภูมิภาคเอเชีย ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม โดย “บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT)” ได้มีการพัฒนาการให้บริการ รวมถึงทบทวนแผนแม่บทการพัฒนาขยายขีดความสามารถสนามบิน ระยะเวลา 10 ปี (ปี 2568-2578) ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องและสามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนั้น รัฐบาลภายใต้การนำของ “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ก็มีนโยบายชัดเจนที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางการบินในภูมิภาค” (Aviation Hub) ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคม โดย “นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้มีนโยบายที่จะวางเป้าหมายให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) พัฒนาสนามบินทั้ง 6 แห่งในการดูแล ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานภูเก็ต ไปสู่เป้าหมายศูนย์กลางการบินภูมิภาค และพยายามผลักดันให้ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ติด 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกในปีนี้ และตั้งเป้าว่าจากนั้นภายใน 5 ปี ให้ขยับอันดับขึ้นไปติด 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก

โดย “ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยว่า ล่าสุด เว็บไซต์ Skytrax ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับการให้บริการของสนามบินทั่วโลกได้ประกาศรายชื่อ สนามบินที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Airport) ประจำปี 2025 โดยได้มีการจัดอันดับให้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ติดอันดับที่ 39 ขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 58 โดยขึ้นมาถึง 19 อันดับ จากปีก่อน

ขณะเดียวกันยังได้จัดอันดับให้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ติดอันดับที่ 3 ในประเภท สนามบินที่พัฒนาได้ดีที่สุดของโลก (The World’s Most Improved Airport) ประจำปี 2025 พร้อมกันนี้ ยังจัดอันดับให้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ติดในอันดับที่ 6 ในประเภทสนามบินที่ดีที่สุดในหมวดหมู่สนามบินที่สามารถรองรับผู้โดยสาร 50-60 ล้านคนต่อปี (Best Airports: 50 to 60 million passengers) ประจำปี 2025 อีกด้วย

นอกจากนั้น เว็บไซต์ Skytrax ยังได้ประกาศให้ ท่าอากาศยานดอนเมือง ติดอันดับ 8 ของสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Low-Cost Airline Terminals) ซึ่งปีนี้เป็นการขยับอันดับขึ้น จากอันดับที่ 10 เมื่อปีก่อน ซึ่งผลการจัดอันดับดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ท่าอากาศยานดอนเมือง มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพการบริการที่เหนือความคาดหมาย (Quality Airport with Service Mind) เพื่อให้ผู้โดยสารเกิดความประทับใจในประสบการณ์ของการเดินทาง (Memorable Airport Experience)

ทั้งนี้ผลจากการจัดอันดับมาจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้เดินทางด้วยเครื่องบินทั่วโลก ภายใต้การสำรวจที่ชื่อว่า World’s Airport Survey ซึ่งจัดทำโดยบริษัท Skytrax ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านการบินชั้นนำของประเทศอังกฤษที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์คุณภาพการให้บริการของสายการบินและสนามบินทั่วโลก โดย Skytrax ได้ประกาศผลการจัดอันดับต่างๆ ประจำปี 68 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ในงาน Passenger Terminal Expo 2025 ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน

ดร.กีรติ กล่าวต่อว่า การที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง สามารถขยับอันดับขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับจากผู้เดินทางทั่วโลกในคุณภาพการให้บริการของสนามบินของ AOT ถือเป็นผลจากความร่วมมือร่วมใจของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่ง AOT จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และคุณภาพการให้บริการ เพื่อยกระดับมาตรฐานท่าอากาศยานไทยให้เทียบเท่าสนามบินชั้นนำระดับโลกอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้โดยสาร และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ