“สมคิด เชื้อคง” ยอมรับ สมาชิกพรรคเพื่อไทย อยากให้ปรับปรุงกระทรวงพาณิชย์ เหตุลงพื้นที่ ชาวบ้านถามแต่เรื่องพืชผลการเกษตร เชื่อหากปรับ ครม. คงหลังกฎหมายงบประมาณ 2569

วันที่ 21 เมษายน 2568 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลของนิด้าโพล ที่พบว่าประชาชนอยากให้ปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ว่า เป็นความเห็นของตัวอย่างประชากร 1,300 คน แต่อำนาจการปรับ ครม. เป็นของนายกฯ เรื่องโพลเป็นเรื่องของประชาชนให้ความเห็นไป ตนเชื่อว่า รัฐบาลยังไม่คิดอะไร ยังทำงานต่อไป ยืนยันอำนาจการปรับ ครม. เป็นของนายกฯ ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงอันดับหนึ่งที่ประชาชนอยากให้เปลี่ยน ซึ่งตรงกับสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่อยากให้เปลี่ยนใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนหนึ่งได้ยินสมาชิกพรรคเพื่อไทยพูด และหลายคนพูดถึงเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร ฉะนั้น กระทรวงพาณิชย์จะต้องไปปรับปรุงเร่งรัดในการทำงาน ตนเชื่อว่าหากมีเวลาสักหน่อยก็คงจะดีขึ้น แต่ตามผลโพลที่ออกมาก็เห็นทุกเรื่องอยู่ว่าอยากให้ปรับ อย่างไรก็ตาม ในพรรคเพื่อไทยมีการพูดคุยกันเป็นปกติ ตนได้ยินอยู่ และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ส.ส. ไปพบปะพี่น้องประชาชนก็อยากให้ราคาพืชผลดี เมื่อถามว่า มองว่าช่วงเวลาใดเหมาะสมในการปรับ ครม. หรือควรผ่านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ไปก่อน นายสมคิด กล่าวว่า ตนไม่ทราบจริงๆ แต่ในความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าจะปรับก็หลังกฎหมายงบประมาณ น่าจะเป็นช่วง มิ.ย. ซึ่งกฎหมายงบประมาณเข้าวาระแรกประมาณวันที่ 28 - 30 พ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ส่วนจะปรับก่อนหรือหลัง ตนไม่แน่ใจ แต่โดยหลักการปรับ ครม.เป็นเรื่องปกติ มีการปรับในทุกรัฐบาล

...

เมื่อถามว่า นอกจากกระทรวงพาณิชย์ ในพรรคมีการพูดคุยเรื่องการสลับหรือโยกกระทรวงหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่ได้พูดขนาดนั้น จริงๆ กระทรวงพาณิชย์เขาไม่ได้ระบุเจาะจง เขาสะท้อนเรื่องราคาพืชผลตกต่ำ อยากให้ราคาพืชผลดี ทาง ส.ส. ไปบ้านกลับมาก็มาบ่นเรื่องนี้ ซึ่งดันมาตรงกับผลโพลพอดี เมื่อถามอีกว่า ในพรรคเพื่อไทยได้มีการพูดคุยกับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ แล้วหรือยัง นายสมคิด กล่าวว่า ตนว่านายกฯ พูดคุย แต่ไม่แน่ใจว่าพูดคุยเรื่องอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยพอใจกับกระทรวงที่ดูแลอยู่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า “ก็พอใจอยู่แหละที่ดูแลอยู่ ผลงานก็เริ่มจะมีออกมาบ้างแล้ว บางอันก็ไม่ได้ดั่งใจหรอก พี่น้องประชาชนก็เข้าใจอยู่ว่าใจร้อน แต่อย่าลืมว่าเรามาอยู่ในภาวะเศรษฐกิจมันถดถอย ตกต่ำ เลยกลายเป็นเรื่องที่เราต้องทำงานอย่างหนัก”