สงกรานต์ 2568 “นายกฯ แพทองธาร” เปิดงาน Maha Songkran World Water Festival 2025 ที่ท้องสนามหลวง ลั่น ปีต่อๆ ไปยิ่งใหญ่แน่นอน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ขอบคุณความร่วมมือทุกภาคส่วน

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 12 เมษายน 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะทูตานุทูต คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมเปิดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2568 ณ บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร นำเสนอชมไฮไลต์สำคัญอย่างขบวนพาเหรดมหาสงกรานต์ในรูปแบบคานิวัล สะท้อนความงดงามของวัฒนธรรมไทย จำนวน 8 ขบวน อัดแน่นด้วยกิจกรรมแห่งความสุขตลอด 5 วัน ตั้งแต่เวลา 15.00-23.00 น. ทั้งการแสดงเชิงวัฒนธรรม การแสดงโดรนแปรอักษร คอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง กิจกรรมมหรสพงานวัดไทย ลานเล่นน้ำ โซนสินค้าท้องถิ่นของดี 5 ภาค ตอกย้ำคุณค่าแห่งมรดกไทยที่พร้อมผลักดันสู่เป้าหมายให้ประเทศไทยติด 1 ใน 10 สุดยอดประเทศเฟสติวัลระดับโลก

...

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. หน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมกันพลิกโฉมประเทศไทยด้วยนวัตกรรมและความสร้างสรรค์ที่จะมาต่อยอดวิถีแห่งวัฒนธรรม บริเวณท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ 11-15 เมษายน 2568 สร้างเสน่ห์ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการเดินทางมาเยือน โดยตั้งเป้าหมายที่จะให้ประเทศไทยติด 1 ใน 10 สุดยอดประเทศเฟสติวัลระดับโลก ขณะที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมให้บริการแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police เชื่อมต่อกับระบบรับแจ้งเหตุตำรวจท่องเที่ยว 1155 พร้อมฟังก์ชัน SOS และ GPS ที่สามารถแชร์โลเคชั่นแจ้งพิกัด และประสานกับศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ในการรับแจ้งเหตุและร่วมกันระงับเหตุความปลอดภัยอย่างทันท่วงที พร้อมมีบริการล่ามแปลภาษา 8 ภาษา ตลอด 24 ชั่วโมง อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้อย่างปลอดภัยและไร้กังวล

จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่สำคัญที่เราได้จัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2025 ซึ่งเป็นงานใหญ่ของประเทศที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน รัฐบาล และภาคประชาชน ตนคิดว่าการที่เราจัดงานแบบนี้ 2 ปีติดกันและเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ปีต่อๆ ไปก็ต้องยิ่งใหญ่แน่นอน มั่นใจอย่างยิ่งว่าเราปักหมุดว่าสงกรานต์คืองานที่สำคัญของประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่กรุงเทพมหานคร แต่ทุกจังหวัดในประเทศด้วย ก็จะสามารถทำให้รอบโลกรู้ว่าประเทศไทยของเรามีเดือนที่น่าเที่ยว เดือนเมษายนเป็นเดือนที่จะทำให้นักท่องเที่ยวสนใจและปักหมุดเป็นปลายทาง ปีนี้เป็นการยกระดับสงกรานต์อย่างเป็นรูปธรรม พัฒนาของวัฒนธรรมไทยที่เรารักอยู่แล้ว เมื่อใส่เทคโนโลยีเข้าไป ความทันสมัย ความคิดสร้างสรรค์ เราก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเพณีของเรา และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจต่อทางกรุงเทพฯ และทั่วประเทศได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้รัฐบาลพยายามสนับสนุนให้ทุกๆ เดือนของประเทศไทยสามารถเที่ยวได้ จะมีสักที่ในจังหวัดต่างๆ ที่สามารถเที่ยวได้ เช่นเดือนเมษายนเราจะมีงานสงกรานต์ที่เริ่มขึ้นเร็วกว่าช่วงสัปดาห์นี้ และไปจบเอาวันไหลที่วันที่ 25-27 เมษายน 2568 จะสามารถเที่ยวได้เกือบทั้งเดือน สงกรานต์จะไม่ใช่แค่ 2-3 วันอีกต่อไป นอกจากมีการจัดมหาสงกรานต์ที่ท้องสนามหลวงแล้ว ยังมีการจัดเทศกาลสงกรานต์ในเกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพราะฉะนั้น การอยู่ของนักท่องเที่ยวก็จะนานขึ้น ไม่ใช่แค่เพียง 2-3 วันแล้วกลับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้เศรษฐกิจของเราหมุนเวียนได้อย่างดี

ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ทำให้งานนี้เกิดขึ้นอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กรุงเทพมหานคร กระทรวงวัฒนธรรม ภาคเอกชน และภาคประชาชน หวังเป็นอย่างยิ่งว่างานมหาสงกรานต์จะสร้างประสบการณ์ดีๆ และความทรงจำดีๆ ให้กับทุกคน ก่อนกล่าวปิดท้ายว่าสวัสดีปีใหม่ไทย

ทางด้าน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ปีนี้ ททท. จัดเต็มความพิเศษแบบอัดแน่น นำโดยไฮไลต์ ขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์ ในรูปแบบขบวนแห่คานิวัล Soft Power ตามแนวคิด T H A I N E S S I C O N I C มี 8 ขบวน พร้อมนักแสดงกว่า 500 ชีวิตร่วมขบวน ได้แก่ ขบวนสายน้ำบันดาลสุข, ขบวนสีสันแห่งฤดูกาล, ขบวนสมบูรณ์พูนแซ่บ, ขบวนช้างไทยแสนรู้, ขบวนเชิดชูค่าปลากัดไทย, ขบวนมหรสพวิถี ลีลาสยาม, ขบวนตุ๊กตุ๊ก รถแห่หมอลำซิ่ง และขบวนสงกรานต์วัยใส

ในวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลา 17.30 น. มีการแห่ขบวนเส้นทางจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สู่ถนนราชดำเนินและไปสิ้นสุดที่ท้องสนามหลวง และวันที่ 13 เมษายน 2568 เวลา 17.30 น. จะมีการแห่รอบท้องสนามหลวง พร้อมจอดแสดงบริเวณท้องสนามหลวง ในวันที่ 12-15 เมษายน 2568 นอกจากนี้ ททท. ยังเสิร์ฟความสุขเต็มพื้นที่ท้องสนามหลวงตลอดทั้ง 5 วัน ตั้งแต่เวลา 15.00-23.00 น. ประกอบด้วย โซนเวทีใหญ่ ชมการแสดงทางวัฒนธรรมและการแสดงร่วมสมัย รวมถึง การแสดงโดรนแปรอักษร 3 มิติ จำนวน 1,200 ลำ ในเวลา 20.30 น. โดยประมาณ และคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง

ขณะเดียวกัน ยังได้จัดโซนสงกรานต์อัตลักษณ์ 5 ภาค, โซนเวทีวัฒนธรรม แสดงศิลปวัฒนธรรมไทยจากทั่วประเทศ อาทิ ลิเกฮูลู ลำตัด ลอยล่องเล กิ่งกะหลา รำวง เป็นต้น, โซนเสน่ห์ไทย โซนมหรสพงานวัดไทย ย้อนวันวานไปกับกิจกรรมบ้านผีสิง หนังกลางแปลง ชิงช้าสวรรค์ และก่อเจดีย์ทราย, โซนกิจกรรมสรงน้ำพระ และรดน้ำผู้สูงอายุ เสริมสิริมงคลเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทย, โซนลานเล่นน้ำ สาดความสนุกในสถานีบริการเติมน้ำเล่นน้ำสงกรานต์และถังน้ำล้นยักษ์ พร้อมชมการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีและการแสดง EDM จาก DJ ที่มีชื่อเสียง โซนจำหน่ายอาหาร ผลิตภัณฑ์และสุดยอดของดีจากทั่วประเทศ มากกว่า 100 ร้านค้า ตลอดระยะเวลา 5 วันของการจัดงาน ททท. ยังมีบริการรถรับ-ส่ง ฟรี เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานฯ ตั้งแต่เวลา 15.00-23.00 น. ของทุกวัน จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ MRT สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย-สนามหลวง และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า-สนามหลวงด้วย

ทั้งนี้ ททท. คาดว่าในช่วงสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2568 การเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 26,500 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 476,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 สร้างรายได้ 7,324 ล้านบาท และจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 4,418,500 คน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 19,240 ล้านบาท และ ททท. คาดการณ์ว่ากิจกรรมบริเวณท้องสนามหลวงจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 8 แสนคน สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 3,200 ล้านบาท.

(ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย)