ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เผย พิจารณาคดียุบพรรคเพื่อไทย-6 พรรคร่วมรัฐบาล ปม “ทักษิณ” ครอบงำเร็วๆ นี้ แจงคณะสืบสวนไต่สวนร่วมดีเอสไอ สอบคดีฮั้วเลือก สว. คืบ 30 % โยนอยู่ที่ชุดไต่สวนเรียก สว. สำรองมาให้ปากคำหรือไม่

วันที่ 10 เม.ย. 2568 ที่โรงแรมเซ็นทาราฯ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคำร้องยื่นยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ที่ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรค ว่า เลขาธิการ กกต. ได้สั่งให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และสอบปากคำคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว เข้าใจว่าคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานจะสามารถเสนอเรื่องให้เลขาธิการ กกต. พิจารณาได้ในเร็ววันนี้ ว่ากรณีนี้เป็นเหตุอันควรยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีการยุบพรรคหรือไม่ ซึ่งถ้าหากเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นเช่นนั้นก็จะต้องเสนอเรื่องให้ที่ประชุม กกต. พิจารณา ถ้ากกต. เห็นด้วยกับทางเลขาธิการ กกต. เราก็จะส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าเลขาธิการ กกต. เห็นว่าเรื่องนี้ไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอเชื่อถือได้ว่าการกระทำนี้ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมือง นั่นก็จะสั่งยุติเรื่อง

แจงคณะสืบสวนไต่สวนร่วมดีเอสไอ สอบคดีฮั้วเลือก สว. คืบ 30 %

นายอิทธิพร ยังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของคณะสืบสวนและไต่สวนที่มีราชการจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเจ้าพนักงานสืบสวน และไต่สวนกรณีฮั้วเลือก สว. ว่า อย่างที่บอกว่าเมื่อเราตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนขึ้นมาอีกหนึ่งชุด โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางดีเอสไอเข้ามาร่วมด้วย การทำงานก็ไม่ได้เริ่มจากศูนย์ เพราะว่าทีมทางดีเอสไอก็ได้มีการรวบรวมข้อเท็จจริงเบื้องต้นเอาไว้แล้ว ฉะนั้นคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดนี้ ทำงานคืบหน้าไปแล้วอยู่ที่ร้อยละ 30 เพราะต้องเกี่ยวข้องกับการสอบพยานบุคคล ซึ่งมีจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลา แต่อย่างที่บอกว่าการทำงานจะเริ่มจากคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน และมาสู่ส่วนกลาง ทั้งความเห็นของเลขาธิการ กกต. ไปยังอนุกรรมการวินิจฉัย เพื่อกลั่นกรองก่อนจะเสนอที่ประชุมชุดใหญ่ กกต. เชื่อว่าเรื่องนี้เราไม่ทำอย่างชักช้าแน่

...

เมื่อถามว่าจะมีเรียกคณะ สว. สำรองมาให้ปากคำด้วยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า คงต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดนั้น ถ้ารับเป็นสำนวนแล้วก็ควรจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำให้ครบถ้วน เปิดโอกาสให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เพื่อสอบสวนแล้วสรุปสำนวนเป็นอย่างไรก็ส่งมายัง กกต. หรือถ้าเห็นว่าต้องมีการสอบปากคำเพิ่มก็เพิ่มได้ เรื่องนี้เป็นไปตามระเบียบสืบสวนไต่สวน