รมว.ยุติธรรม ตั้งเป้าหมาย ดาว 4 ดวง เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาที่คดียังไม่ตัดสินถึงที่สุด ต้องได้รับการปฏิบัติที่ต่างจากนักโทษเด็ดขาด ด้าน “ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ” เล่าความทรงจำ เคยเกือบแพ้คดีม็อบ ปี 53 เพราะเสียเปรียบในการรวบรวมพยานหลักฐาน
วันที่ 9 เม.ย. 2568 พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิด “เรือนจำศูนย์ระหว่างพิจารณาคดี (Hub)” ใน 8 กลุ่มจังหวัด ซึ่งภายในงานได้มีการจัดเวทีเสวนา ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่ศาลยังไม่ตัดสินคดีถึงที่สุด ย่อมถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น โดยหลักการแล้ว ควรได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากนักโทษเด็ดขาด และในอนาคต ควรมีเรือนจำแยกต่างหากสำหรับผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในเรือนจำทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมได้ตั้งเป้าหมาย ดาว 4 ดวง มาบรรจบกัน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี ได้เข้าถึงสิทธิตามรัฐธรรมนูญ 4 ด้าน คือ 1. สิทธิในการเข้าถึงทนายความ 2. การพิจารณาคดีที่เป็นธรรม 3. การติดต่อครอบครัวและเครือข่ายสนับสนุน และ 4. ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างไปจากนักโทษเด็ดขาด

...
นอกจากนี้ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ควรต้องปรับปรุงกฎระเบียบ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดีและมีความก้าวหน้าด้านการศึกษาได้ใช้สิทธิลดโทษ สูงสุดเดือนละ 5 วัน เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ยังติดปัญหาเกี่ยวกับกฎกระทรวงที่ยังเป็นอุปสรรค
นอกจากนี้ พ.ต.อ. ทวี ได้กล่าวชื่นชมเรือนจำมีนบุรี ที่อนุญาตให้ผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ไม่ต้องแต่งกายในชุดนักโทษสีลูกวัวขณะเดินทางไปขึ้นศาล ซึ่งถือเป็นการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องขัง ปัจจุบัน มีคนวัยหนุ่มสาว กว่า 400,000 คน ที่ติดอยู่ในกระบวนการยุติธรรมสมควรต้องได้รับการฟื้นฟูพัฒนา และได้รับโอกาสในการกลับคืนสู่สังคม และกลับมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ ผู้ที่ก้าวพลาด ต้องการได้รับโอกาส ไม่ใช่ความสงสาร หลายคนที่ก้าวพลาดก็ไม่ได้เป็นอาชญากรโดยสันดาน
ทางด้าน นาย ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่เคยอยู่ในเรือนจำมาแล้ว 3 ครั้ง เห็นว่า พ.ต.อ. ทวี เดินมาถูกทางแล้ว ในการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี เข้าถึงทนายความและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีความ เพราะตนเองเคยเสียเปรียบในการต่อสู้คดีก่อการร้ายมาแล้ว นายณัฐวุฒิ ยังได้กล่าวติดตลก ในช่วงท้ายว่า “ถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกประทับใจและชื่นชม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง และกรมราชทัณฑ์ แต่ผมก็ไม่ได้อยากกลับมาใช้บริการกรมราชทัณฑ์อีกอย่างแน่นอน มันเป็นคนละเรื่องกัน ผมแค่เคยอยู่ในนั้น”

