มท.1 เตรียมเข้ารายงานผลการสอบสวนตึก สตง. ถล่มต่อนายกฯ 8 เม.ย. ก่อนประชุม ครม. เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาต่อไปในอนาคต ขณะที่นายกฯ สั่ง 8 กระทรวงให้เร่งทำแผนรับมือภัยพิบัติ แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน

วันที่ 7 เมษายน 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาในการแก้ไขปัญหาแผ่นดินไหว ที่มีอาคารก่อสร้างของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินพังถล่มลงมา โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสรุปผลการสอบสวนภายใน 7 วัน ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเข้ารายงานต่อนายกรัฐมนตรีในเช้าวันพรุ่งนี้ (วันอังคารที่ 8 เมษายน 2568) เวลา 08.30 น. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะรับฟังข้อมูลผลการตรวจสอบกรณีดังกล่าว เพื่อหาข้อสรุปให้เกิดบรรทัดฐานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างรัดกุมและนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม. ให้ 8 กระทรวง อาทิ กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการจัดทำแผนและมาตรการภัยพิบัติต่างๆ โดยให้มีการแบ่งหน้าที่และกำหนดขั้นตอนการทำงานอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ยังสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศเร่งศึกษากับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศที่มีความพร้อมและอยู่ในแนวแผ่นดินไหว อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศนิวซีแลนด์ หรือบางประเทศในสหภาพยุโรป รวมทั้งประเทศอิสราเอล ให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมแผนรับมือทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุบัติเหตุใหญ่ๆ และอุบัติภัยสำคัญ ว่าควรจะดำเนินการในรูปแบบไหนอย่างไร ทั้งระบบโรงพยาบาลสนาม การปฏิบัติตัว การรองรับ และการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ อย่างไร

...

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้เร่งสื่อสารกับนักท่องเที่ยวว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่อื่นๆ ในประเทศไทยได้ปกติ

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ระดมนักวิชาการธรณีวิทยาเพื่อรวบรวมข้อมูลในการจัดทำข้อเสนอแนะและมาตรการที่ถูกต้อง ปลอดภัย พร้อมตรวจสอบอุปกรณ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันว่าใช้การได้มากน้อยเพียงใด เช่น ชายฝั่งอันดามันที่เคยเกิดเหตุสึนามิ ที่เคยมีการวางทุ่นในทะเล ให้สำรวจว่ายังใช้การได้อยู่หรือไม่ และให้นำกลับมารายงานที่ประชุมอีกครั้ง

นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการบรรจุเรื่องการปฏิบัติตนในขณะแผ่นดินไหว และการเกิดอุบัติภัยต่างๆ เข้าไปในแบบการเรียนการศึกษาของเด็กและเยาวชน เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ และไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้มาก่อน

ขณะเดียวกันมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมตรวจสอบการเดินทางทุกมิติ ทั้งทางน้ำ ทางบก ทางเรือ และทางอากาศว่าโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีพี่น้องประชาชนใช้บริการสามารถใช้บริการได้หรือไม่ มีความแข็งแรงและสามารถรองรับภัยธรรมชาติได้มากน้อยเพียงใด

สำนักนายกรัฐมนตรีให้ร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปมาตรการเยียวยาของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต และให้ประชาสัมพันธ์เป็นศูนย์กลางในการกระจายข่าวสารอย่างถูกต้องและทั่วถึง โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าต่างๆ และผลของการดำเนินคดีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ด้วย