“เฉลิมชัย” นำทีมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทำบุญครบ 79 ปี ก่อตั้งพรรค ประกาศพร้อมนำ ปชป. สู่ทศวรรษที่ 8 ย้ำ ยึดมั่นหลักการอุดมการณ์-ประชาธิปไตยไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 เมษายน 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้จัดงานทำบุญเนื่องในโอกาสที่ตั้งพรรคครบรอบปี 79 ย่างเข้าปีที่ 80 ภายใต้แนวคิด “ก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8” โดยในช่วงเช้าพรรคได้จัดพิธีทำบุญตามหลัก 3 ศาสนา คือ อิสลาม พราหมณ์ และพุทธ โดยทำพิธีทางศาสนาอิสลามที่ชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ผช.เลขานุการ รมว.ทส. พร้อม พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่ สส. สงขลาในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศ นายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคร่วมพิธีโดยมีนายประสาน ศรีเจริญ ประธานผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรีนำพิธีซิเก (สวดสรรเสริญ) และดุอาอ์ขอพร

...
ลั่นอุดมการณ์ไม่เปลี่ยน
นายเฉลิมชัย กล่าวตอนหนึ่งว่า นับตั้งแต่ พ.ศ. 2489 ที่มีการจัดตั้งพรรค ปชป. ขึ้นเพื่อเป็นตัวแทน เป็นปากเสียงให้พี่น้องประชาชน ด้วยหลักการและอุดมการณ์ของพรรคในเรื่องประชาธิปไตย การต่อต้านเผด็จการ จนถึงปัจจุบัน พรรคของเรายังมีอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง หากมองย้อนไป 40 ปีที่แล้ว เราคิดไม่ถึงว่า วันนี้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าเทคโนโลยีต่างๆ จะรวดเร็ว เราจึงคาดการณ์ไม่ได้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า อะไรจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่พรรค ปชป. มี ไม่ว่าจะกาลเวลาเปลี่ยนไปอย่างไร ก็คือหลักการและอุดมการณ์ ถือเป็นหัวใจของพรรค ถ้าคนเรารักกันก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคนเราไม่รักกันการจะทำลาย ทำร้ายกัน ก็จะทำที่หัวใจ ฉะนั้นประชาธิปัตย์วันนี้เมื่อถูกกล่าวหาว่า ไม่มีหลักการ ไม่มีอุดมการณ์ ตนเป็น สส. ตั้งแต่ปี 44 ไม่เคยคิดย้ายพรรค เพียงแต่อาจจะไม่ได้ประกาศว่า จะอยู่ประชาธิปัตย์จนตาย เพราะหลายคนประกาศอย่างนั้น แต่ก็ไปแล้ว แต่ตนไม่ทำ เพราะรู้ว่าใจตนเองว่าคืออะไร

พระเจ้ากำหนดภารกิจ
“ผมรู้ตัวเองว่า ชีวิตผมมีได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้นหลักการที่เป็นหัวใจของประชาธิปัตย์ต้องมีอยู่ ผมรู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระผู้เป็นเจ้ากำหนดเพื่อทำภารกิจอะไร นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจ เมื่อผมอาสามาเป็นหัวหน้าพรรค สิ่งที่จะต้องทำคือ ก็ต้องพาพรรค ปชป. เดินไปข้างหน้าให้ได้ และมีความตั้งใจให้เป็นพรรคการเมืองที่ต้องรวมทุกกลุ่มชนทุกหมู่เหล่าทุกศาสนาเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน และเพื่อความสันติสุข อันเป็นสิ่งที่เป็นเป้าหมายสูงสุด” นายเฉลิมชัย กล่าวและว่า แม้เป็นภาระที่หนักหน่วง แต่วันนี้จะเป็นอีกวันที่เป็นการเริ่มต้นของความเป็นสิริมงคล หวังว่า จะได้ทำกิจกรรมให้เป็นประโยชน์กับสังคม และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนในส่วนของศาสนาต่อไป

ลั่นนำ ปชป. สู่ทศวรรษที่ 8
นายเฉลิมชัย ยังได้ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานทำบุญ 3 ศาสนาในโอกาสพรรค ปชป. ครบรอบ 79 ปี ถึงทิศทางของพรรคต่อจากนี้ ว่า ในโอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าสู่ทศวรรษที่ 8 สิ่งที่ทำอันดับแรก คือ การเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ทันกับโลกและสถานการณ์ปัจจุบัน โดยยึดในอุดมการณ์พรรค ยึดมั่นรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตนเชื่อมั่นว่า การสร้างความเป็นเอกภาพภายในพรรคที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ จะเป็นการขับเคลื่อนที่ดีที่สุดเพื่อพาพรรคประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า จึงต้องฝากพี่น้องประชาชนช่วยติดตามและสนับสนุนพรรคด้วย เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้เพื่อให้พรรคอยู่คู่พี่น้องประชาชนต่อไป

โว ลต.ซ่อม สส.นครศรีฯ ไม่ซื้อเสียง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 8 นครศรีธรรมราช นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ในพรรคคุยกันแล้วโดยส่งนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต สส. นครศรีธรรมราชลงสมัครแข่งขัน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ และย้ำให้ประกาศบนเวทีไปเลยว่า จะไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงโดยเด็ดขาด จะใช้วิธีการหาเสียงในรูปแบบของประชาธิปัตย์ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและเป็นตัวตั้ง ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ให้พี่น้องประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 8 เป็นคนชี้ พรรคเรายึดมั่นแนวทางการเมืองสุจริต ส่วนกรณีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคได้ส่งผู้สมัครลงแข่งขันกันเองนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ประชาธิปไตยจบแล้วก็จบ แข่งจบแล้วก็ทำงานด้วยกันได้ ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังคุยและปรึกษากัน โดยมีนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานครดูแล ซึ่งพรรคเราเกิดจากกรุงเทพมหานคร เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะส่ง ก็มีสูงมาก

ชี้ ศึกกำแพงภาษี แค่เริ่มต้น
เมื่อถามถึงนายกรัฐมนตรี ประกาศตั้งทีมเจรจาการค้ากับประเทศสหรัฐอเมริกา ภายหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มกำแพงภาษีสินค้าจากไทยเพิ่มเป็น 36% นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เท่าที่ทราบนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ร่วมดูแล มีการนัดหมายตั้งคณะเพื่อขอเจรจา คิดว่าจะมีโอกาสเจรจา และสถานการณ์จะคลี่คลายลง วันนี้รัฐบาลต้องเตรียมตัว พี่น้องประชาชนคนไทยก็ต้องเตรียมตัวเช่นเดียวกันในการต่อสู้เรื่องค่าใช้จ่ายและภาษีที่เพิ่มขึ้น เพราะนี่แค่เป็นการเริ่มต้นเท่านั้น