“ชูศักดิ์” ยืนยันรัฐบาลไม่ได้มุบมิบผลักดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” แต่เป็นนโยบายของรัฐบาล กว่าจะออกเป็นกฎหมายต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
วันที่ 1 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า ทุกอย่างผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว เท่าที่ตนได้ดูเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ ผู้ที่จะเข้ามาประกอบธุรกิจต้องขออนุญาตดำเนินการอย่างน้อย 4 อย่าง จะทำกาสิโนอย่างเดียวไม่ได้ โดยรายละเอียดอยู่ในท้ายกฎหมาย ที่ประกอบด้วย 9 อย่าง เช่น สนามกีฬา โรงแรม เป็นต้น
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การอธิบายกาสิโน 10% ไม่ทำให้ประชาชนเข้าใจ ต้องอธิบายว่าต้องทำ 4 อย่างหรือมากกว่า รวมกาสิโนด้วย เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ต้องการทำสถานบันเทิงครบวงจร ไม่ใช่มุ่งเน้นกาสิโนเพียงอย่างเดียว มีเจตนารมณ์เพื่อเพิ่มการลงทุนในประเทศ จึงกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในประเทศ มีทุนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อต้องการเอาเม็ดเงินเข้าประเทศ นี่เป็นตัวอย่างที่รัฐบาลต้องการสร้างเศรษฐกิจที่ดีในประเทศ
นายชูศักดิ์ ยอมรับว่าสิ่งที่ยากก็คือช่วงที่จะเริ่มดำเนินการ รัฐบาลต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา กำหนดพื้นที่ ต้องมีแผนที่แนบท้าย จังหวัดอะไร อำเภออะไร มีเนื้อที่เท่าไร “โดยรวมกฎหมายนี้ ทำขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล อย่าไปพูดว่าเร่งรีบ ไปย้อนฟังดูรัฐบาลแถลงเรื่องนี้เอาไว้ เมื่อเป็นนโยบายของรัฐบาลก็ต้องเร่งรีบ เพราะกว่าจะตราขึ้นได้แต่ละฉบับต้องผ่านสภาผู้แทนราษฎร ผ่านวุฒิสภา ซึ่งไม่รู้ว่าวุฒิสภาจะแก้ไขอะไรบ้าง”
...
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะฝ่าเสียงค้านของนักวิชาการไปได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิเสรีภาพที่แสดงได้ แต่ย้ำว่าเป็นนโยบายรัฐบาลที่แถลงไว้ ไม่ได้มุบมิบทำขึ้น จะทำแค่กาสิโนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีเงื่อนไขเยอะแยะ รัฐบาลมีความรอบคอบ รัดกุมพอสมควร ส่วนกรอบระยะเวลาในชั้นของสภาผู้แทนราษฎร อาจใช้เวลา 2 เดือนกว่า ก่อนจะส่งต่อไปที่วุฒิสภา ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าวุฒิสภาจะมีการแก้ไขมากน้อยแค่ไหน