“มาริษ” เข้าร่วมประชุมวาระพิเศษฉุกเฉินรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน กรณีแผ่นดินไหว “นายกฯ อิ๊งค์” ขอบคุณให้กำลังใจและการสนับสนุนแก่ไทย ยินดีอาเซียนให้ความสำคัญช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา

วันที่ 30 มีนาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการเข้าร่วมการประชุมวาระพิเศษฉุกเฉินของรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันนี้ กรณีแผ่นดินไหวในเมียนมา ว่า ที่ประชุมแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อไทยและเมียนมาในการรับมือกับผลกระทบ พร้อมสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาอย่างเร่งด่วน ซึ่งไทยในฐานะเพื่อนบ้านใกล้ชิดกับเมียนมาและมีบทบาทสำคัญในอาเซียน ได้เริ่มจัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังเมียนมาแล้ว ซึ่งอาเซียนได้สนับสนุนให้ตนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ในฐานะประเทศประธานอาเซียน เดินทางเยือนเมียนมาในวันที่ 5 เมษายน 2568 เพื่อหารือร่วมกับ นายตาน ส่วย รมว.ต่างประเทศเมียนมา เรื่องความช่วยเหลือที่จำเป็นต่อไป

นายมาริษ กล่าวว่า รมว.ต่างประเทศอาเซียน ยังได้ออกแถลงการณ์เรื่องผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ว่า ประเทศอาเซียนแสดงความเห็นใจและเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนของเมียนมาและไทย ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายในวงกว้าง อาเซียนยังตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อาเซียนพร้อมที่จะสนับสนุนความพยายามในการบรรเทาทุกข์และฟื้นฟู ซึ่งรวมถึงการส่งทีมประเมินความเสียหายและตอบโต้เหตุฉุกเฉินของอาเซียน อีกทั้งอาเซียนยืนหยัดในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประสานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ และสามารถตอบสนองด้านมนุษยธรรมอย่างทันท่วงที มีประสิทธิภาพ ด้วยการสนับสนุนจากศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติ (AHA Centre)

...

ต่อมาเมื่อเวลา 20.13 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ดิฉันได้รับรายงานจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถึงการเข้าร่วมประชุมฉุกเฉินอาเซียนต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาและประเทศไทย ดิฉันขอขอบคุณประเทศมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ที่ได้จัดการประชุมครั้งนี้ขึ้น และประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศที่ให้กำลังใจและการสนับสนุนแก่ไทยด้วย รวมทั้งยินดีที่อาเซียนให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาอย่างเร่งด่วน ซึ่งดิฉันได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อไปด้วยแล้วค่ะ”