"นายกฯ อิ๊งค์" ลุกแจงละเอียดปม ฝุ่น PM 2.5 - ปลาหมอคางดำ เหน็บฝ่ายค้าน หลังถูกยกประเด็นที่ดินอัลไพน์ตอนตัวเองอายุ 11 ขวบ ถามอภิปรายรัฐบาลชุดไหน
เมื่อเวลา 21.12 น. วันที่ 24 มีนาคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นครั้งที่ 3 ของศึกซักฟอกวันแรก ว่า ขอชี้แจงเรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้มีการอภิปรายไปว่าดิฉันไม่ได้ทำให้เป็นเรื่องจริงจัง จริงๆ มันเป็นวาระแห่งชาติอยู่แล้ว ตนเป็นคนพูดคนแรกว่าให้เป็นวาระแห่งอาเซียน ณ ตอนนี้ภาคเหนือมีฝุ่นควันเข้ามาอย่างหนาแน่น ซึ่งเป็นฝุ่นมาจากเพื่อนบ้าน จะต้องประสานงานกันทุกระดับ เพื่อขอความร่วมมือความช่วยเหลือที่จะไม่เผาพื้นที่เกษตร ซึ่งได้ประสานเขาไปแล้ว เขาก็ตอบกลับว่า ทราบดีว่าควันมาจากทางของเขา แต่ก็มีอีกหลายประเด็นที่ชี้แจงเพิ่มได้
สิ่งที่สมาชิกได้พูดว่าตน "ได้แต่สั่ง แต่ไม่มีคนทำ" จริงๆ อย่าพูดแบบนั้นเลย เพราะการอภิปรายวันนี้ท่านมาอภิปรายตน อย่าไปอภิปรายข้าราชการทั้งประเทศ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องระดับประเทศ แทบไม่ต้องสั่งการเลย พอพูดคำเดียวปุ๊บ ข้าราชการทุกท่านอยากทำเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะทุกๆ คนก็อยากทำเพื่อประเทศเช่นกัน ไม่ได้มีแค่กลุ่มเฉพาะกลุ่มท่านเท่านั้นที่อยากจะทำเพื่อประเทศ ข้าราชการเองก็อยากทำ เราทุกคนเองก็อยากทำเพื่อประเทศทั้งนั้น อย่าขีดเส้นตัดสินกันแบบนี้เลย ข้าราชการทุกท่านที่ตนขอความร่วมมือทำอย่างเต็มที่ เขาก็อยากได้ประเทศที่มีอากาศบริสุทธิ์เช่นกัน
...
ที่ผ่านมา ฝุ่นลดลงอย่างมากด้วยมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลทำ กระทรวงต่างๆ ให้ความร่วมมือ ข้าราชการให้ความร่วมมือ ประชาชนให้ความร่วมมือ การที่ค่าฝุ่นลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็นเพราะเกิดการบูรณาการจากทุกฝ่ายร่วมกัน อย่างแรกคือที่กระทรวงมหาดไทย รองนายกฯ อนุทิน ได้มีการสั่งการไป 76 จังหวัดในการยกระดับปฏิบัติการบังคับใช้ข้อกฎหมายอย่างเด็ดขาด ได้มีประกาศห้ามเผาและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ส่งผลให้การเผาในพื้นที่เกษตรลดลง และมีการดำเนินคดีกับผู้ที่จงใจฝ่าฝืน ภายใน 3 เดือนเกิดขึ้นถึง 133 คดี นี่คือสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยทำ
ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการอนุมัติงบกลางเพื่อให้เฝ้าระวังเรื่องของไฟป่า ล่าสุดที่ได้คุยกับอธิบดีฯ ข้าราชการ ทุกคนพูดว่างบอันนี้สามารถช่วยได้อย่างมาก เพราะกระจายไปถึงกรมป่าไม้และอุทยานด้วย สามารถทำให้มีคนเฝ้าระวัง ณ จุดต่างๆ รวมทั้งหมด 3,895 จุด ซึ่งการเฝ้าระวังแต่ละจุดมีจำนวนมากกว่าปีที่แล้วถึง 50% ฉะนั้นจึงสามารถควบคุมไฟป่าได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ยังมีชุดลาดตระเวน ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า และมีการเสริมกำลังจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง รวมทั้งอาสาสมัครมากกว่า 18,000 คน มากกว่าปีที่แล้วถึง 40% ส่งผลให้จุดความร้อนลดลงไปถึง 30%
นอกจากนี้ ยังมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีมาตรการเพื่อป้องกันการเผาในพื้นที่เกษตร ในช่วงวันที่ 17 ม.ค. 2568 ถึง 31 พ.ค. 2568 ถ้าหากมีการเผาจะไม่ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพเกษตรกร และรัฐบาล ครม. ยังอนุมัติงบอีก 200 ล้านบาท เพื่อให้กรมฝนหลวง เพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการฝนหลวง ในการป้องกันการแก้ปัญหาน้ำแล้ง อันนี้มีการดัดแปลงสภาพอากาศให้บรรเทาปัญหาในเรื่องของฝุ่นละอองขนาดเล็ก
กระทรวงอุตสาหกรรมเอง ก็มีนโยบายงดรับซื้ออ้อยจากการเผา ในปีที่แล้วมีอ้อยที่เข้าโรงงานน้ำตาลที่มาจากการเผา 30% ดังนั้นปีนี้รัฐบาลจึงตั้งเป้าไว้ที่ 25% แต่ผลปรากฏว่ามีการร่วมมือแบบบูรณาการ ปัจจุบันจึงเหลือแค่ 15% ซึ่งรัฐบาลจะพยายามสนับสนุนในเรื่องนี้ต่อไป ยังมีกระทรวงสาธารณสุข ที่มีการแจ้งเตือนทุกครั้งที่ฝุ่นจะมากในพื้นที่ไหน มีการให้ความรู้ วิธีป้องกัน วิธีปฏิบัติตัว ให้ความรู้ประชาชน และจัดชุดดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ และจัดทำห้องปลอดฝุ่นกว่า 17,000 ห้อง รองรับประชาชนได้กว่า 2 ล้านคน
นอกจากนี้ ยังมีกระทรวงคมนาคม เข้มงวดกับการจับรถควันดำทั่วประเทศ สามารถตรวจจับได้ถึง 148,252 คัน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว 7 เท่า รวมทั้งมีการออกคำสั่งห้ามใช้รถที่ปล่อยควันดำ 2,408 คัน มากกว่าปีที่แล้ว 2 เท่า
ดังนั้นสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมาตรการที่รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงมีอาสาสมัครต่างๆ ภาคประชาชน ที่เข้ามาช่วยกัน ซึ่งต้องขอขอบคุณเพราะถ้าไม่ได้ความร่วมมือจากทุกท่าน การที่ฝุ่นควันจะลดลงขนาดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
ผลงานที่เราเห็นทุกวันนี้ที่เป็นรูปธรรม คือเราไม่สามารถจะทำให้ฝุ่นหายไปในพริบตา แต่ก็เห็นแล้วว่ามีจุดความร้อน มีฝุ่นลดลง ไม่ว่าจะจำนวนวันของฝุ่นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ก็ลดลงเช่นกัน มันอาจจะมีบางวันที่มากขึ้นไป แต่ถ้าค่าเฉลี่ยก็น้อยลงกว่าปีที่แล้ว อย่างน้อยๆ รัฐบาลมาถูกทางแล้ว และเราก็คงดำเนินการแบบนี้ต่อไป และก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนต่อไป
จริงๆ ปัญหาเรื่องฝุ่นไม่ใช่ปัญหาของรัฐบาลชุดใดชุดหนึ่ง แล้วก็ใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของคนไทยทุกๆ คน ที่ต้องร่วมมือกันให้เกิดผลในภาพรวมภาพใหญ่ อันนี้คือสิ่งที่สำคัญมากๆ แน่นอนว่ารัฐบาลจะใช้ทุกสรรพกำลังเพื่อจะทำให้ประเทศของเรามีอากาศที่ดีขึ้น คืนอากาศบริสุทธิ์ให้คนไทยเร็วๆ เราก็ทำเต็มที่ทุกทางที่ทำได้ ถ้าทางฝ่ายค้านมีข้อแนะนำเพิ่มเติมจากสิ่งที่รัฐบาลทำไปแล้ว ยินดีรับฟัง
การซื้อที่ดินอัลไพน์
ส่วนเรื่องพลังงานในส่วนที่ท่านสมาชิกได้อภิปรายไป ท่านรองนายกฯ ได้ชี้แจงรายละเอียดไปหมดแล้ว รัฐบาลชุดนี้ไม่เคยมีการดำเนินการใดๆ อย่างที่ท่านกล่าวหาเลย ไม่แน่ใจว่าท่านกำลังอภิปรายรัฐบาลชุดไหน ซึ่งนอกจากที่ท่านจะพูดถึงการซื้อที่อัลไพน์ตอนดิฉันอายุ 11 ขวบแล้ว ท่านก็ยังอภิปรายในเรื่องของไม่ทราบว่ารัฐบาลชุดไหนทำด้วย เพราะท่านกำลังอภิปรายไม่ไว้วางใจดิฉัน ไม่ใช่ผลงานของรัฐบาลชุดอื่นๆ ดิฉันรับฟังก็คิดขึ้นมาว่า อะไร อะไร ก็ดิฉันนะคะ ซึ่งมันอาจเข้าใจผิดกันนะคะ
กล่าวหาว่า "รัฐบาลทำให้ค่าไฟแพง"
เรื่องค่าไฟฟ้าที่กล่าวหาว่ารัฐบาลทำให้ค่าไฟแพง เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนและพวกพ้อง ดิฉันขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ ยังไม่เคยอนุมัติซื้อไฟฟ้าเพิ่มกับบริษัทใดๆ เลย แม้แต่การซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนของประเทศเพื่อนบ้าน ดิฉันมีข้อมูลว่าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าทำกันมาหลายปีแล้ว ก่อนที่ดิฉันจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งคิดว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและไม่ถูกต้อง
ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำ ในวันที่ประชาชนมาทำเนียบรัฐบาล เราไม่ได้แบ่งแยกอยู่แล้วว่าใครจะมา เมื่อมีม็อบหรือมีคนมาเรียกร้อง เราก็ได้ส่งรองเลขานายกฯ และอธิบดีไปคุยทุกครั้ง ไม่มีการละเลยพี่น้องประชาชน ตนเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เคยคิดว่าจังหวัดไหนเป็นอย่างไร ทุกๆ ที่เป็นประเทศไทย ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องดูแลพี่น้องทุกจังหวัด "มันไม่จำเป็นว่าจะต้องเลือกว่าใครเป็นใคร มันเลือกได้หรอคะ มันไม่ใช่ค่ะ"
ปลาหมอคางดำ
แต่เรื่องปลาหมอคางดำที่ทำต่อจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีการอนุมัติงบกลาง ปี 2567 ใน 7 มาตรการในการควบคุมและกำจัด โดยที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบงบกลางจำนวน 98 ล้านบาท เพื่อดำเนินการต่อ ขณะเดียวกันเราก็รับข้อเสนอ 4 ข้อของกลุ่มเกษตรกรที่มีการดำเนินการไปแล้วในบางเรื่อง และตั้งคณะทำงานเพื่อพูดคุยในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อทำตามในสิ่งที่พี่น้องประชาชนเรียกร้อง ในการพิจารณากรอบช่วยเหลือเยียวยา และผู้คนที่ได้รับผลกระทบที่เรากระทำกันอย่างจริงจัง โดยรัฐบาลได้ดำเนินทุกข้อเรียกร้องของประชาชน โดยเป้าหมายที่แท้จริงคือการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน เพื่อจะได้มีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆ กัน
ส่วนรถไฟฟ้า 3 สนามบิน และ Double Deck ก็อยู่ในขั้นตอนฝ่ายปฏิบัติ ยังไม่ได้อยู่ในระดับนโยบายเลย ท่านก็ไม่ไว้วางใจตนแล้ว ตามจริงรออีกสักหน่อย แล้วจะให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาชี้แจงในเรื่องนี้ในรายละเอียดต่อไป
น.ส.แพทองธาร กล่าวทิ้งท้ายว่า "เราตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนจริงๆ จะติชมได้เสมอ เป็นเรื่องที่เราน้อมรับอยู่แล้ว ความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนสำคัญกับรัฐบาลของเราอย่างมาก และเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด".