ผู้นำฝ่ายค้าน เตรียมเปิดแผลนายกฯ ยันใช้ยื่นถอดถอนได้จริง ชี้ครอบคลุมถึงคนตระกูลชินวัตร ไม่หวั่นถูกฟ้องหมิ่นประมาท ขอรอดู “ร.ต.อ.เฉลิม” ร่วมวงอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ บอก 10 นาทีของ “ลุงป้อม” ถือเป็นเวลาที่คุ้มค่า
วันที่ 24 มีนาคม 2568 เมื่อเวลา 7.30 น. ที่อาคารัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า มีความพร้อมเต็มที่ มีการเตรียมตัวก่อนหน้านี้มานานแล้ว คนที่จะตอบคำถามว่าพร้อมหรือไม่อาจจะเป็นฝั่งรัฐบาลมากกว่า
เมื่อถามว่าเห็นการเคลื่อนไหวของรัฐบาลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อาจจะมีเรื่องที่สะดุดไปบ้างโดยเฉพาะเรื่องข้อร้องเรียนการแก้ไขญัตติ ทั้งที่ประธานรัฐสภาก็ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่สุดท้ายตนเองเชื่อว่าน่าจะดำเนินการเป็นไปได้ด้วยดี เพราะวันนี้หากมีการขัดขวางขึ้นมาจริงๆ ก่อนการอภิปรายจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลเอง
เมื่อถามว่าเตรียมรับมือกับการประท้วงไว้อย่างไรบ้าง นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตอนนี้พวกเราทุกคนพร้อมทุกคนและทุกคนก็แม่นข้อบังคับพร้อมที่จะทำหน้าที่ในฐานะพรรคฝ่ายค้านในการถ่วงดุลตรวจสอบจึงไม่มีข้อกังวลอะไร
เมื่อถามว่าไฮไลท์ของวันนี้จะมีอะไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็มีหลายเรื่อง ซึ่งทางฝ่ายค้านได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ก็สำคัญหลายๆ เรื่องและเป็นไฮไลท์ทุกเรื่องจึงขอให้รอติดตามชมดีกว่า เมื่อถามถึงประเด็นดีลแลกประเทศอยากให้อธิบายให้ประชาชนฟังว่าเป็นอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าความหมายของดีลแลกประเทศคือสิ่งที่ประชาชนจะต้องสูญเสียไป ต้นทุนในเรื่องของค่าเสียโอกาสที่เป็นเงินภาษีของประชาชนที่ต้องแลกไปจากการจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นดีลแลกประเทศเพื่อผลประโยชน์ของคนในตระกูลชินวัตรและผลประโยชน์ของคนในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งประเด็นตระกูลชินวัตรมีส่วนที่เกี่ยวข้องหลายส่วน ไม่สามารถที่จะเปิดเผยล่วงหน้าได้ จึงอยากให้ทุกคนติดตามการอภิปรายใน 2 วันนี้
...
เมื่อถามว่ามีประเด็นมากกว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ที่จะอภิปรายลงลึก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ใช้คำว่าคนในตระกูลชินวัตรดีกว่า ซึ่งครอบคลุมอยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่าทุกคนที่เราเอ่ยถึงจะไม่ได้พาดพิงอะไรและยืนอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง และทุกคนที่เราพาดพิงก็มีส่วนสำคัญในการอภิปรายครั้งนี้ เพื่อชี้ให้ทุกคนเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไม่ชอบธรรมและเป็นดีลแลกประเทศจริงๆ
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่เรื่องการฟ้องร้องหมิ่นประมาท นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเองไม่ห่วงอะไรเพราะว่าตามข้อบังคับและข้อกฎหมายสมาชิกผู้อภิปรายจะต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบอยู่แล้ว อาจจะมีการพาดพิงบุคคลภายนอก แต่เราก็มั่นใจในข้อมูลของเรา ว่าทุกส่วนที่เราอภิปรายไม่น่าจะถูกฟ้องร้องได้
เมื่อถามว่ายุทธการโรยเกลือ นายทักษิณบอกว่าไม่กังวลและจะเอาน้ำตาลโรยกลับ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องลองดูหากโยนน้ำตาลกลับมาจริงๆ ก็อาจจะเป็นการอภิปรายที่มีสีสันมากขึ้นแต่เราก็มั่นใจว่าการอภิปรายครั้งนี้จะเป็นการกรีดแผลในรัฐบาล และการโรยเกลือก็หมายถึงว่าหลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจไป แม้ฝ่ายค้านจะไม่มีเสียงเพียงพอที่จะถอดถอนนายกรัฐมนตรีได้แต่การดำเนินการหลังจากนี้ต่างหากที่จะเป็นการส่งผลสะเทือนถึงรัฐบาลได้
เมื่อถามว่านายทักษิณมีการกล่าวว่าการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านไม่มีอะไรดุเดือด นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขอให้รอดูการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านดีกว่าว่าจะมีการดีลกันของพรรคร่วมรัฐบาลจริงหรือไม่ พร้อมย้ำว่าข้อมูลที่เรานำเสนอใน 2 วันนี้จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเราทำหน้าที่ในฐานะพรรคฝ่ายค้านเต็มที่แน่นอน คนที่มีดีลเดียวกันจะไม่ใช่พรรคประชาชนหรือพรรคฝ่ายค้าน แต่คนที่มีดีลกันคือพรรคร่วมรัฐบาลที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนเยอะแยะเต็มไปหมด
เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวทำให้พรรคภูมิใจไทยลอยตัว และมีกระแสว่าพรรคภูมิใจไทยมาดีลกับพรรคประชาชนด้วย เพื่อแลกกับคดี 44 สส.พรรคก้าวไกล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวและอยากให้ดูการอภิปรายภายในสองวันนี้ที่จะมีการพาดพิงหลายกระทรวงและรัฐมนตรีหลายคน โดยพวกเรามองว่าจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมดมาจากดีลแลกประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองก็ให้สัมภาษณ์และยอมรับไปแล้วด้วยซ้ำ ว่าดีลในครั้งนี้เพื่อพาคุณพ่อกลับบ้าน แต่จริงๆ แล้วเรามีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ที่เราจะเปิดเผยภายใน 2 วันนี้ต่อไป และย้ำข้อมูลที่เกิดขึ้นในสภาฯ สส.มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ดังนั้นหลักฐานที่เราเปิดเผยในช่วง 2 วันนี้ จะถูกนำไปใช้ในการยื่นถอดถอนต่างๆ หากนายกไม่สามารถตอบหรือชี้แจงได้
เมื่อถามถึงเรื่องกรอบเวลาที่มีการลากยาวไปถึง 5.30 น. ของอีกวัน อาจจะทำให้ประชาชนไม่ได้ติดตามเท่าที่ควร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า แม้จะถูกบีบเรื่องกรอบเวลาว่าต้องอยู่ภายใน 2 วัน แต่พวกเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แม้จะดึกดื่นแค่ไหนก็พร้อมที่จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่และอยากให้นายกฯ อยู่ฟังพวกเราให้มากที่สุด เพราะหากนายกฯ อยู่ฟังคณะรัฐมนตรีก็ต้องอยู่ด้วย
เมื่อถามว่าหากมีการอภิปรายไม่ครบทางฝ่ายค้านจะขอเพิ่มวันในการอภิปรายใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เงื่อนไขเดิมยังคงอยู่ ส่วนจะจบภายใน 2 วันได้จริง ก็ขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลควบคุมเวลาของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นก่อนเปิดประชุมในวันนี้ ในช่วงเช้าถ้าหากมีการตีรวนจากฝั่งรัฐบาลเอง จนทำให้กรอบ 2 วันไม่จบก็ไม่สามารถโทษใครคนอื่นได้ นอกจากการตีรวนของพรรครัฐบาลเอง
เมื่อถามว่าคาดหวังหรือไม่นายกรัฐมนตรีจะอยู่ฟังกี่ชั่วโมง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าก็คาดหวังให้นายกฯ อยู่ฟังและชี้แจงให้มากที่สุด แต่คิดว่าคงมีภารกิจครอบครัว จึงไม่สามารถไปกะเกณฑ์ได้ว่าจะอยู่จบภายในกี่ชั่วโมง
เมื่อถามว่ามีพรรคฝ่ายค้านบางพรรคให้เวลาร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ด้วย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขอให้รอดูหน้างานดีกว่า เพราะตามหน้าข่าวที่ออกมาก็มีเสียงสะท้อนจากฝั่งรัฐบาลด้วยกันเอง แต่พรรคฝ่ายค้านพร้อมให้โอกาสสมาชิกทุกคนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะสังกัดพรรคไหน หากมีข้อมูลที่พร้อมตรวจสอบฝ่ายบริหารก็ยินดีและพร้อมเปิดโอกาสให้อภิปราย
“ผมและทางวิปฯ ไม่เคยไปเจรจาโดยตรงแต่ว่าเคยได้รับการประสานมาทางอ้อมบ้าง อันนี้เป็นข้อเท็จจริง ส่วนร้อยตำรวจเอกเฉลิม จะมีการอภิปรายหรือไม่ ขอให้รอดูที่หน้างานดีกว่า”
เมื่อถามว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่จะขออภิปราย 10 นาที มีอะไรที่เป็นไฮไลท์สำคัญหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็ถือว่าเป็นเวลาที่มีความคุ้มค่า เพราะที่ผ่านมา เราไม่ค่อยได้เห็นบทบาทของพลเอกประวิตรในสภาฯ สักเท่าไหร่จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงที่น่าติดตาม
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวย้ำถึงไฮไลท์สำคัญในการอภิปรายอีกว่า ยังมีในเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและการขาดคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี โดยตนเองยืนยันว่าเรื่องการขาดคุณสมบัติของตัวนายกฯ มีข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยในหน้าสื่อมวลชนมาก่อน จึงอยากให้ทุกคนติดตามและข้อมูลที่มีการอภิปรายในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะยื่นถอดถอนได้จริง