“รังสิมันต์ โรม” เชื่อ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจมีหลายมิติ มั่นใจในพยานเอกสารเอาผิดนายกฯ อุบบอก หลังข่าวสะพัด “เฉลิม” อาจร่วมวงอภิปราย เผย กำลังเรียงคิวคนพูด ลั่น พรรคร่วมรัฐบาลกังวลแน่

วันที่ 22 มีนาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ในส่วนของ กมธ.มั่นคงฯ จะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกหรือไม่ ว่า อาจจะลงรายละเอียดไม่ได้มาก แต่ยืนยันว่าในทุกเรื่องที่เป็นความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราสามารถจะเข้ามาเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นการที่เอาเรื่องเป็นปัญหาที่นายกฯ ล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน “ซึ่งความล้มเหลวนี้ไม่ได้อยู่ที่พวกเราแต่ความล้มเหลวนี้อยู่ที่ตัวท่าน” ดังนั้นในเรื่องของมิติความมั่นคง มิติของการคอร์รัปชัน มิติปัญหาเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้สามารถที่จะนำมาใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทั้งสิ้น

ในวันจันทร์ที่ 24 มี.ค. 68 จะเป็นหนึ่งในวันที่เราเตรียมขุนพลเอาไว้มากมายในการที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในการที่จะอ่านญัตติและหลังจากนั้นจะมีอีกหลายท่านที่จะมีการอภิปราย ซึ่งตนคิดว่าหลายส่วนค่อนข้างมั่นใจในเรื่องของพยานเอกสารต่างๆ และหลังจากที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้วจะมียุทธการโรยเกลือ คือการโรยเกลือของเราโดยหลังจากที่มีการเปิดเอกสารแล้ว จะนำไปสู่การดำเนินการตามกฎหมายต่อไปกับทางนายกฯ

...

เมื่อถามว่าตอนนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคจะมีการส่งชื่อมาให้ว่าใครจะอภิปรายบ้าง นายรังสิมันต์ระบุว่า ในเรื่องนี้ตนขอยังไม่คอนเฟิร์มว่าใครจะอภิปรายคนที่เท่าไหร่ แต่แน่นอนว่าเราให้เกียรติทางด้านหัวหน้าของแต่ละพรรคอยู่แล้ว ซึ่งมีหลายพรรค แต่เบื้องต้นขอสรุปในการจัดลำดับผู้อภิปราย และมีความเป็นไปได้ว่าการอภิปรายในส่วนของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคงเป็นอันดับต้นอยู่แล้ว

สำหรับกระแสข่าวที่ว่าร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี จะมีการเข้ามาร่วมอภิปรายในครั้งนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ระบุว่า เบื้องต้นคนที่จะอภิปรายจะมีการส่งชื่อมา แต่ว่าการส่งชื่อยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นยังตอบไม่ได้ว่าจะมีชื่อของร้อยตำรวจเอกเฉลิมอยู่หรือไม่ แต่ให้รอดูก่อน คาดว่าใกล้จะสรุปรายชื่อแล้ว

ถามย้ำว่าถ้ามีการขอมาจะได้หรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ระบุต่อว่า คงต้องมีการคุยกันก่อน ตนไม่สามารถที่จะยืนยันตรงนี้ได้เพราะยังไม่มีการทราบว่ามีการขอเข้ามาอภิปรายตรงนี้ โดยเบื้องต้นหากมีการขอมาคงต้องมีการพูดคุยกันกับทางแกนนำพรรคประชาชนด้วยว่าสุดท้ายเราจะให้หรือไม่ให้อย่างไร พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้เป็นหลักปฏิบัติตนไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้และไม่ใช่เป็นการพูดคุยกันเพียงแต่ภายในพรรคเท่านั้น เพราะต้องมีการพูดคุยกับทางพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย เพราะเวลามันเป็นไปตามสัดส่วนของพรรค ทั้งนี้คงต้องมีการพูดคุยกันในภาพรวมก่อนเพราะต้องทำงานร่วมกัน

ซึ่งภาพรวมในเรื่องที่ทางพรรครัฐบาลได้มีการนัดดินเนอร์กันเมื่อวานที่ผ่านมา มีท่าทีเป็นอย่างไรบ้าง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ทางรัฐบาลส่งสัญญาณกังวลต่อการอภิปรายครั้งนี้เป็นพิเศษ ถ้าหากเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว เพราะรัฐบาลชุดนี้ส่งสัญญาณถึงความกังวลและความเครียดกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีวิธีการหลายๆ วิธี ตั้งแต่ตอนที่เราเสนอญัตติ ก็พบว่าต้องมีการถอนชื่อชายคนนั้น ไปจนถึงมีเรื่องของการที่ประธานสภาฯ พยายามที่จะพูดในเรื่องของญัตติและยังมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกเกิดขึ้นมาอีก

ทั้งนี้ ตนได้เห็นภาพของการที่มีการเตรียมกำลังและขุนพลขนาดนี้แสดงให้เห็นว่าท่านนายกรัฐมนตรีไม่พร้อมที่จะชี้แจงใช่หรือไม่ ไม่พร้อมที่จะตอบคำถามใช่หรือไม่ ไม่พร้อมที่จะอภิปรายตามข้อกล่าวหาต่างๆ ที่ฝ่ายค้านได้กล่าวหาใช่หรือไม่ เมื่อเป็นแบบนี้แสดงเห็นว่ารัฐบาลกลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะยิ่งมีการนัดดินเนอร์ยิ่งสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในพรรคร่วมรัฐบาลด้วย