“รองนายกฯ ภูมิธรรม” ขออย่าเอาเรื่องสื่อเยี่ยมอุยกูร์มาเป็นเรื่องใหญ่ ชี้ครั้งนี้เกินหลักการให้ทั้งสื่อของรัฐและเอกชนมา บอกเขาร้องไห้ไม่ใช่การจัดฉาก ยันไม่ใช่ดาราสั่งให้แสดงไม่ได้ ด้านผู้นำศาสนา ขอคนไทยอย่ากังวล รัฐบาลจีนดูแลดี
วันที่ 20 มีนาคม 2568 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่เรือนรับรอง เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ตามเวลาท้องถิ่นที่เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภาพรวมวันแรกของการเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับจีนว่า บ้านของแต่ละคนอยู่ห่างไกลกันมาก การไปเยี่ยมใช้เวลาเดินทางไปกลับ 5-6 ชั่วโมง แต่ได้งานมากพอสมควร ส่วนข่าวที่ออกไปแล้วต้องเบลอหน้าของชาวอุยกูร์ เพราะเขาขอความร่วมมือให้เบลอหน้าเวลานำเสนอข่าว เพราะบางคนไม่สบายใจ เนื่องจากกลับมาแล้วก็ได้ชีวิตใหม่แล้วอยากอยู่อย่างสงบ ไม่อยากเป็นบุคคลที่ถูกจับตามอง แต่สื่อที่มาทำข่าวได้เห็นหน้าจริง ๆ ได้เปรียบเทียบว่าเป็นคนที่อยู่ในเครือข่ายและมีชื่อถูกส่งมาจริงหรือไม่ ตนว่าเรื่องนี้ไม่ควรมีใครหยิบเป็นประเด็นขึ้นมาเพื่อมาด้อยค่าความเป็นจริง เราต้องอยู่กับความเป็นจริง และการที่เราเชิญสื่อมวลชนมา ก็เป็นสื่อจากช่องต่าง ๆ ที่มียอดคนดูคนติดตามจำนวนมาก เพราะเราต้องการให้เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ของคนในประเทศได้มาก จะเห็นว่าเครือใหญ่ ๆ ที่มียอดขายหรือคนติดตามเป็นที่นิยม เราก็เชิญมาทั้งหมด ทั้งเนชั่น ช่องสาม NBT เครือมติชน เครือไทยรัฐ เราเชิญหมด ถ้าดูในรายชื่อก็จะทราบว่าเราไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ซึ่งทุกคนที่มาได้เห็นความจริง และได้เจอความเป็นจริงทั้งหมด อย่ารู้สึกว่าทุกคนต้องได้มา เพราะความเป็นจริงที่เราทำงานกันมา ก็รู้อยู่แล้วว่าไปต่างประเทศเราไม่ได้ไปทุกคน อย่างสมัยที่นายกรัฐมนตรีไป ก็ให้คณะเดียว แล้วทำพูลส่งให้ทุกคน คราวนี้ถือว่าให้เกินหลักการที่เคยทำ นำทั้งสื่อของรัฐและเอกชนมา ซึ่งเราพยายามทำทุกอย่างแล้วใครที่ไม่ได้มาครั้งนี้ โอกาสไปประเทศอื่นก็ยังมี อย่าใช้ตรงนี้เป็นเหตุที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้ทำหน้าที่ เพราะเพื่อน ๆ ก็มาทำหน้าที่ให้แล้ว อย่าให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาติดใจ มาทำให้เกิดความไขว้เขว เพราะเป็นเรื่องของประเทศชาติ เป็นเรื่องความเชื่อมั่นของประเทศของไทย ปลดล็อกภาระทั้งหมดที่เราแบกมากว่า 10 ปี
...
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับการเลือกครอบครัวไปเยี่ยมนั้น เขาต้องสมัครใจ เราไม่มีสิทธิละเมิดสิทธิ์เขา เรามาไม่ใช่มาเยี่ยมผู้ต้องหา แต่เรามาเยี่ยมเยียนถามสารทุกข์สุกดิบ ถ้าพูดกันตามหลักเรื่องนี้จบตั้งแต่เขาขึ้นเครื่องบินของประเทศจีนกลับแล้ว แต่เราไม่ได้มีภารกิจเพื่อทำแค่นี้ เพราะยังคงมีความกังวลใจต่าง ๆ จึงพยายามเชิญสื่อทุกส่วนมาเห็นจริง ๆ ก็ถือว่าจีนอำนวยความสะดวกเยอะ ซึ่งสื่อก็เป็นพยานได้ เราเปิดกว้าง หากใครคิดว่ามีการจัดฉาก ก็ไปหาล่ามมานั่งดูได้ หรือถ้าคิดว่าจะเอาเรื่องนี้เป็นประเด็นหลัก ก็พิสูจน์ได้ทั้งหมด เพราะเราทำครั้งนี้เราโปร่งใสหมด ส่วนการแสดงความรู้สึกมันห้ามไม่ได้ เขาไม่ใช่ดาราฮอลลีวูด บอกให้ร้องไห้ก็ร้องได้เลย อันนี้มาถึงเขาน้ำตาซึม น้ำตาคลอ พอถามว่าดีใจไหม หรือรู้สึกอย่างไร น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างที่เห็น ตนแตะมือเขาเบา แต่เขาบีบมือแน่น การแสดงออกได้ชัดเจนจริง ๆ แทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลย ดูภาพ ฟังเสียง ดูสายตา ดูอารมณ์ความรู้สึก ภาพมันตอบทั้งหมด และเป็นภาพที่เกิดขึ้นจากความจริง ตอบได้ง่ายกว่า
ผู้นำศาสนา ขอคนไทยอย่ากังวล 40 อุยกูร์ กลับบ้าน บอกรัฐบาลจีนดูแลดี
จากนั้นเวลา 10.20 น. ที่มัสยิดอิดกะฮ์ เมืองคาซือ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคณะเดินทางเยี่ยมชมหมู่บ้านท้องถิ่นและมัสยิดอิดกะฮ์ พร้อมกับหารือผู้นำศาสนาในพื้นที่ โดยผู้นำศาสนาได้อธิบายความเป็นมามัสยิดอิดกะฮ์ ว่ามีการก่อตั้งมาตั้งแต่ยุคราชวงศ์หมิง มีประวัติกว่า 580 ปี เป็นสถานที่เปิด ทั้งคนจีนและชาวต่างชาติสามารถเข้ามาได้ และในปี 1962 รัฐบาลจีนได้ตั้งให้อาคารแห่งนี้เป็นโบราณสถานที่ต้องเก็บไว้ ปี 2001 ได้ตั้งให้เป็นสถานที่โบราณระดับชาติ ภายในมัสยิดมีการติดตั้งฮีตเตอร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ามาประกอบพิธีทางศาสนา ในปี 2013 รัฐบาลท้องถิ่นได้มอบพรมให้แก่มัสยิดเพื่อสะท้อนความสัมพันธ์ที่ดี และรัฐบาลซินเจียงยังได้มีงบฟื้นฟูสถานที่ทำให้มัสยิดได้มีการพัฒนา
จากนั้นนายภูมิธรรม ได้สอบถามว่าได้ติดตามข่าวสารที่ทางการไทยได้ส่งตัวชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คนกลับประเทศหรือไม่ โดยผู้นำทางศาสนาตอบว่า ได้ติดตามจากข่าวออนไลน์ และรู้สึกดีใจมาก นายภูมิธรรมจึงสอบถามต่อว่า มีความคิดเห็นอย่างไรที่ชาวอุยกูร์ออกไปจากประเทศแล้วได้กลับมา ผู้นำศาสนากล่าวว่าตนเองดีใจมาก และหากมีโอกาสอยากไปเยี่ยมกลุ่มคนเหล่านั้น นายภูมิธรรมยังถามด้วยว่า มีคนไทยบางส่วนเป็นห่วงกลุ่มคนอุยกูร์ที่เดินทางกลับมาประเทศว่าสุขสบายดีหรือไม่ ผู้นำศาสนากล่าวว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่ปกครองตามกฎหมายเพราะฉะนั้น การที่คนเหล่านี้กลับมาประเทศจีน คนไทยที่กังวลไม่ต้องกังวล ทุกคนเหล่านี้อยู่กับครอบครัวก็มีความสุขและรัฐบาลจีนจะดูแลอย่างดี ให้มีชีวิตอย่างปกติ