“อิทธิพร” เผย ส่ง 10 สำนวนคดีฮั้ว สว.ถึงมือศาลแล้ว เชื่อที่เหลือจะพิจารณาเสร็จไม่เกิน 1 ปี หลังเชิญ 3 ตัวแทน DSI ร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนร่วมด้วย ส่วนคดี “หมอเกศ” คาด เสนอให้ กกต.ตัดสินอีกครั้งเดือนเมษายนนี้

วันที่ 19 มีนาคม 2568 โรงแรมรามา การ์เดน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสืบสวนคดีฮั้ว สว.ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งได้พิจารณาคำร้องไปแล้ว 228 คำร้องจาก 577 คำร้อง โดยรับเป็นสำนวนแล้ว 82 สำนวน ส่งสำนวนไปศาลแล้ว 9 สำนวน และจากการพิจารณาการกระทำความผิดของ สว.เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 มีนาคม 2568) ส่งสำนวนเพิ่มไปอีก 1 สำนวน (รวม 10 สำนวน) เหลือคำร้องที่ยังไม่ได้รับพิจารณาเป็นสำนวน 267 เรื่อง

ผู้สื่อถามข่าวถึงการตั้ง DSI ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการสืบสวนไต่สวนจะทำให้กระบวนการรวดเร็วขึ้นหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ต้องแยกกัน เพราะปกติ กกต.รับคำร้องเกี่ยวกับ สว.มาโดยตลอด ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับกฎหมายมาตรา 77(1) หรือที่เรียกว่าการฮั้ว โดยมีสำนวนคดี 4-5 สำนวน ที่อยู่ในกรอบกฎหมายของ กกต.ทาง DSI จึงยกสำนวนให้กับ กกต.เป็นผู้พิจารณา

นอกจากนี้ DSI ได้แจ้งกลับมาที่ กกต.ว่าพบการกระทำฝ่าฝืน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) การได้มาซึ่ง สว.ทาง กกต.จึงรับเรื่องดังกล่าวไว้สอบสวน เนื่องจากเป็นความปรากฏ และได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนอีกหนึ่งชุด ที่เชิญ 3 ตัวแทนจาก DSI เข้าร่วมการพิจารณา เชื่อว่าจะทำงานได้อย่างไม่ชักช้า ซึ่งตามกฎหมายแล้วได้มอบอำนาจให้ กกต.สามารถแต่งตั้งบุคคลจากหน่วยงานอื่นร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนได้

ส่วนการกำหนดกรอบระยะเวลาเพื่อให้การดำเนินการแล้วเสร็จนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ทุกเรื่องมีการกำหนดเวลาแล้วเสร็จ ตามกระบวนการของ กกต.เริ่มจากคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนใช้เวลาไม่เกิน 90 วัน จากนั้นเข้ามาสู่กระบวนการของสำนักเลขาธิการ กกต. 60 วัน ทั้งหมดไม่ควรเกิน 1 ปี เพื่อเสนอให้กับสำนักงาน กกต.เพื่อพิจารณา

...

ขณะที่การพิจารณาคำร้องคดี พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย หรือหมอเกศ สมาชิกวุฒิสภานั้น สำนวนล่าสุดของคดีหมอเกศ เข้ามาเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ด้วย 2 ข้อหา ฝ่าฝืนมาตรา 77(1) และ (4) ที่ประชุมของ กกต.เห็นว่าควรสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความชัดเจน จึงให้สำนักงานแจ้งให้คณะกรรมการไต่สวน ทำงานเพิ่มเติม คาดว่า กกต.จะสามารถนำเข้ามาพิจารณาอีกครั้งในเดือนเมษายนนี้