ครม. มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา เกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์ เพิ่มเติมฐานความผิด 5 ประเภท
วันที่ 18 มีนาคม 2568 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์) ตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ สืบเนื่องจากกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารและคอมพิวเตอร์ในสื่อออนไลน์ซึ่งมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และยังไม่สามารถดำเนินการคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชนจากการตกเป็นเหยื่อของการกระทำความผิดต่อเด็กและเยาวชนผ่านทางสื่อออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการนำเทคโนโลยีไปใช้ในการกระทำความผิด โดยเฉพาะการกระทำความผิดต่อเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มที่สามารถถูกล่อลวงและตกเป็นเหยื่อของผู้กระทำความผิดได้โดยง่าย อีกทั้งการกระทำความผิดโดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลยังกระทำได้อย่างไร้พรมแดนและยากที่จะควบคุม
สำหรับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... (การกระทำผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับเพศและความผิดต่อเสรีภาพตามประมวลกฎหมายอาญา เพื่อกำหนดการกระทำผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งกำหนดเพิ่มเติมฐานความผิดในประมวลกฎหมายอาญาไว้ 5 ประเภท ดังนี้
1. การล่อลวงเด็กเพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ
2. การพูดคุยเรื่องเพศไม่เหมาะสม
3. การแบล็กเมลทางเพศ
4. การติดตามคุกคาม
5. การกลั่นแกล้งรังแกออนไลน์
...

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานกิจการยุติธรรมได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นประกอบการจัดทำร่างกฎหมาย และเปิดเผยสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย รวมทั้งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายตามแนวทางมติ ครม. เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 เรื่อง การดำเนินการเพื่อรองรับและขับเคลื่อนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 แล้ว และได้เผยแพร่ผลการรับฟังความคิดเห็นพร้อมการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบด้วยแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบด้วยในหลักการ.