“วันนอร์” มอง แก้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจบทัน 24 มี.ค. ย้ำ ถ้าแก้ญัตติไม่ผ่าน ขยับได้ถึง 10 เม.ย. ไฟเขียวใช้ “สทร.” ได้ ไปตีความกันเอง แค่ไม่เอ่ยชื่อพอ สุดท้ายมติเป็นอย่างไร ให้ประชาชนตัดสิน
วันที่ 15 มีนาคม 2568 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านยอมแก้ชื่อญัตติแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร รอแค่หนังสือที่มีการแก้ไขเข้ามา คาดว่าจะเป็นวันที่ 17 มีนาคมนี้ เมื่อพิจารณาเรียบร้อยก็จะสั่งให้บรรจุระเบียบวาระ และในวันที่ 18 มีนาคม 2568 ก็จะส่งให้นายกรัฐมนตรีเพื่อรับทราบกำหนดวันเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ ในวันที่ 24 มีนาคม 2568 น่าจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้
ส่วนกรอบเวลาจะเป็นกี่ชั่วโมง กี่วันนั้น ต้องให้ทางวิป 3 ฝ่ายไปตกลงกันเอง จะมีการคุยกันรอบหนึ่งในวันที่ 19 มีนาคมนี้ คงจะได้ข้อยุติตกลงกันได้ เพราะทุกฝ่ายก็อยากให้ประชาชนได้ฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถือว่าเป็นครั้งแรกของผู้นำฝ่ายค้านคนนี้ และรัฐบาลชุดนี้ สุดท้ายแม้ผลการลงมติจะออกมาอย่างไรก็ตาม แต่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง
เมื่อถามว่าทางฝ่ายค้านแจ้งมาหรือยังว่าได้เปลี่ยนจากชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคำว่าอะไร ประธานสภาฯ กล่าวตอบว่า ยังไม่ได้บอกเป็นคำว่าอะไร แต่บอกว่าอยู่ในหลักการกว้างๆ และไม่ผิดข้อบังคับ โดยไม่เอ่ยชื่อบุคคลใด แต่หากมีการแก้ใหม่อีกรอบแล้วยังผิดข้อบังคับอยู่ก็ต้องให้แก้ไขใหม่ และไม่ต้องไปกังวลว่าจะเปิดอภิปรายให้ทันวันที่ 24 มีนาคมนี้ เพราะสามารถขยับเวลาได้ไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุมนี้ ส่วนตัวคิดว่าประชาชนจะได้ฟังการอภิปรายอย่างเรียบร้อยและถูกต้องตามข้อบังคับ
...
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหากฝ่ายค้านแก้เป็นใครคนนั้น หรือ สทร. ได้หรือไม่ ประธานสภาฯ ตอบว่า ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้เอ่ยชื่อบุคคล ส่วนคนจะเข้าใจอย่างไรก็เป็นเรื่องของประชาชน และ สส.ในสภาฯ ทางด้านคำถามว่าผู้นำฝ่ายค้านเคยบอก ถ้ายอมแก้ญัตติซักฟอกจะต้องไม่สั่งหยุดการอภิปราย ประธานสภาฯ ระบุว่า การยอมแก้ญัตติก็ส่วนหนึ่ง แต่การอภิปรายก็ต้องเป็นไปตามข้อบังคับการประชุม เพื่อไม่ให้เกิดการถกเถียงตนจะให้เลขาธิการสภาฯ ชี้แจงระเบียบอย่างชัดเจนก่อนเริ่มการประชุม เหมือนการเล่นกีฬาต้องยึดภายใต้กติกา หากทุกฝ่ายเคารพกติกา การเล่นก็จะเป็นไปได้ด้วยดี แพ้ชนะเรื่องหนึ่ง แต่กรรมการต้องเป็นกลาง แน่นอนกรรมการอาจจะต้องถูกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตำหนิ แต่ก็ต้องยอมรับว่ากรรมการไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายพอใจได้
ในประเด็นคำถามว่าถ้าไม่มีการเอ่ยชื่อแต่มีการพาดพิงจะมีการประท้วงกันหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า ถ้าไม่เอ่ยชื่อและกล่าวพาดพิงก็ทำได้ ไม่ใช่แค่นายทักษิณ แต่คนอื่นก็เหมือนกัน ถ้าไม่ผิดกติกา ไม่เอ่ยชื่อ ไม่เสียดสี สามารถทำได้ แต่ถ้าอ้างว่าจำเป็นต้องเอ่ยชื่อก็ต้องดูกติกาอีกที เพราะญัตตินี้ตามรัฐธรรมนูญคือการขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ซึ่งคนภายนอกหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่สามารถจะมาชี้แจงแทนได้ ไม่เหมือนญัตติอื่นๆ ส่วนที่นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเตือนว่า ถ้าให้ฝ่ายค้านตัดชื่อนายทักษิณ รับรองว่าจะได้คำที่หนักกว่าเดิม นายวันมูหะมัดนอร์ ตอบว่า ไม่เป็นไร ขอแค่ไม่ผิดกติกา.