“ศิริกัญญา” เย้ย รัฐบาลถังแตก แจกเงินหมื่นวัยรุ่น ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ ซื้อเสียงนิวโหวตเตอร์ล่วงหน้าไม่ได้ หยัน งัดมาแจกฟื้นความนิยมตกต่ำ สวนรัฐบาลอย่าพูดว่าไม่ได้กู้ใครมา ยัน พรรคฝ่ายค้านไม่ถอนชื่อ “ทักษิณ” ออกจากญัตติซักฟอกรัฐบาล ลั่น ทำตามกฎหมายทุกประการ

วันที่ 12 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ กรณีรัฐบาลเตรียมแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต กลุ่มคนอายุ 16-20 ปี ว่า เป็นการเลือกที่แปลกประหลาด ตัวดิจิทัลวอลเล็ตไม่มีความซับซ้อน ใครที่ใช้พร้อมเพย์เป็นก็สามารถใช้ได้แล้ว ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่ต้องใช้ผู้ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีเท่านั้น ตนคิดว่าประเด็นอยู่ที่งบประมาณอาจจะไม่เพียงพอ ในงบฯ ปี 68 ทำให้อาจจะต้องขยายไปถึงงบฯ ปี 69 จึงทำให้ต้องมีการซอยออกมาเป็นเฟส ๆ ซึ่งเฟสนี้ ตนก็ไม่แน่ใจว่าทำไมลดเหลือเพียงแค่ 2 ล้านคน หรือ 2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น หากเราดูกรณีก่อนหน้าที่มีการแจกเงินสด คือมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท ครั้งแรกเม็ดเงินใหญ่ขนาดนั้น ยังไม่ทำให้เศรษฐกิจกระดิกได้ จีดีพีตกเป้า การบริโภคภาคเอกชนไม่มีการกระเตื้อง และครั้งนี้ 2 หมื่นล้านบาท ถ้าจะให้เกิดผลกระตุ้นทางเศรษฐกิจคงไม่มี

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า แต่ก็ไม่แปลกใจที่รัฐบาลเลิกพูดเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะวันนี้พูดเรื่องเตรียมคนเข้าสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงเอกสารที่เข้าสู่รายงานการประชุม ก็ไม่มีการประเมินผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการนี้ คนก็บอกว่าสรุปแล้วเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าสำหรับนิวโหวตเตอร์หรือไม่ คิดว่าถ้าเป็นจริง จะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ที่จะใช้ภาษีของประชาชนทำการแบบนี้ และคิดว่าซื้อไม่ได้จริง เพราะผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรุ่นใหม่ เขามีวิจารณญาณมากพอที่จะไม่สามารถถูกซื้อได้ด้วยเงิน 1 หมื่นบาท ฉะนั้น เชื่อว่ารัฐบาลไม่มีทางคิดแบบนี้แน่นอน เพราะไม่มีผลทั้งคู่

...

เมื่อถามว่า กังวลเรื่องเม็ดเงินที่ต้องใช้จำนวนมากหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องตรวจสอบต่อไป แต่ตอนนี้ความชัดเจนยังไม่มี เงินในส่วนนี้เป็นงบกลางที่ตั้งไว้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ใช้ไปกับกลุ่มผู้สูงอายุ และรอบนี้ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเหลือเงินกระตุ้นเศรษฐกิจลดลงเรื่อย ๆ และไม่ทราบว่าจะแจกทั้งหมด หรือเปลี่ยนไปทำโครงการอื่นหรือไม่ เพราะถ้อยคำจากรัฐบาลบอกว่าดูตามความเหมาะสม ซึ่งไม่รู้ว่าเหมาะสมของอะไร แต่ถ้าเหมาะสมทางเศรษฐกิจก็เห็นแล้วว่า 2 รอบแรก ไม่ได้เกิดอะไรกับเศรษฐกิจ เราคาดหวังว่าอย่าให้มีครั้งที่ 3 และเมื่อมีครั้งที่ 3 เราก็บอกว่าครั้งที่ 4 ไม่ได้แล้ว

“ต้องดูกับทางรัฐบาลอีกครั้งว่า สรุปแล้วความเหมาะสมของรัฐบาลเป็นความเหมาะสมทางเศรษฐกิจหรือทางการเมือง ว่าในช่วงที่ความนิยมตกต่ำก็งัดเอาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาปลอบประโลมประชาชนว่า อย่างไรก็แจกเงินอยู่หรือเอาความนิยมคืนมา อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการใช้ภาษีประชาชนของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่าอย่ากังวล เงินมีพร้อมอยู่แล้ว ไม่ได้ไปกู้ใคร ซึ่งตนต้องบอกว่ากู้แน่นอน เต็มเม็ด ทั้งหมดเท่าที่จะเอามาใช้ เพราะเป็นส่วนที่ผ่านงบฯ ปี 68 เห็นว่า รัฐบาลต้องตั้งงบฯ ขาดดุลประมาณ 8 แสนกว่าล้านบาท เพื่อเอามาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ฉะนั้น อย่าพูดว่าไม่ได้กู้ใครมา และในฐานะที่เป็นภาษีของประชาชน ตนต้องปกป้องอย่างสุดหัวใจและต้องการันตีว่าโครงการที่ทำไปมีความคุ้มค่า ไม่เช่นนั้นฝ่ายค้านไม่ต้องทำงาน

ยัน ไม่ถอนชื่อ “ทักษิณ” ออกจากญัตติซักฟอกรัฐบาล

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประธานสภาฯ ระบุว่าหากพรรคฝ่ายค้านไม่ถอนชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 จะไม่บรรจุระเบียบวาระ ว่า ยืนยันตามเดิมว่าเป็นไปตามหลักการข้อกฎหมายอย่างชัดเจนที่เราจะบรรจุชื่อของบุคคลภายนอกในญัตติได้ ซึ่งก็ต้องมีการพูดคุยกับประธานสภาฯ ว่าตกลงยืนยันข้อกฎหมายถูกหรือเป็นอำนาจที่ประธานสภาฯ สามารถทำได้จริงหรือไม่ และคงต้องหาทางออกร่วมกันในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามจะไม่ยอมให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เกิดขึ้นในสมัยประชุมนี้แน่นอน และต้องคุยให้จบภายในสัปดาห์นี้

เมื่อถามว่า หากประธานไม่ยอมบรรจุวาระ จะยอมแก้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า “จริง ๆ มีข่าวให้คำแนะนำเราว่าจะใส่ชื่อแทนชื่อของนายทักษิณไว้ว่าอย่างไร มีคนแนะนำมาเยอะ เช่น ชายคนนั้น พี่คนนั้น คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ซึ่งเรายังยืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ แต่ต้องรอดูว่าจะคลี่คลายแบบไหน”