มีการวิ่งล็อบบี้คณะกรรมการคดีพิเศษไม่ให้รับคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. ทำให้กรรมการคดีพิเศษ 4 คน ไม่โผล่เข้าประชุม จึงเหลือคณะกรรมการคดีพิเศษเข้าประชุม 18 คน จาก 22 คน
ปรากฏว่ามีผู้ลงมติไม่ให้รับคดีฮั้วเลือกตั้ง สว.เป็นคดีพิเศษ 4 คน
มีผู้ของดออกเสียงอีก 3 คน จึงเหลือผู้ลงมติให้รับเป็นคดีพิเศษเพียง 11 คน
ไม่ถึง 2 ใน 3 ตามกติกา
คดีฮั้วเลือกตั้ง สว. จึงกลับไปอยู่ในมือ “นายแสวง บุญมี” เลขาธิการ กกต.ตามเดิม
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าคดีฮั้วเลือกตั้ง สว.แช่เบ้าอยู่ที่ กกต.มาแล้ว 9 เดือน อีก 3 เดือนจะครบ 1 ปี!!
หากครบกำหนด 1 ปี กกต.ยังไต่สวนไม่เสร็จ
คดีฮั้วเลือกตั้ง สว.อาจต้องโละทิ้งกลางทาง??
กลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิดฮั้วเลือกตั้ง สว.ก็สบายแฮ
พูดแบบบ้านๆถ้าเป็นคดีอาญาจะมีอายุความ 20 ปี
แต่ถ้าเป็นคดีทุจริตเลือกตั้ง กกต.ต้องไต่สวนให้เสร็จภายใน 1 ปี
นี่คือเหตุผลที่ต้องวิ่งพล่านให้คดีฮั้วเลือกตั้ง สว.กลับไป กกต.
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าแม้บอร์ดคดีพิเศษไม่รับคดีทุจริตฮั้วเลือกตั้ง สว.
แต่บอร์ดคดีพิเศษเปิดไฟเขียวให้ดีเอสไอรับคดีฟอกเงิน ซึ่งเป็นต้นทางของคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. และเป็นปลายทางของคดีอั้งยี่ซ่องโจร
เพราะดีเอสไอพบหลักฐาน “เส้นเงิน” ที่ใช้จ้างผู้สมัคร สว.ฮั้วเลือกตั้งอย่างชัดเจน
สามารถสาวไปถึงผู้กระทำความผิดฐานฟอกเงินได้แน่นอน
สรุปว่าขบวนการฮั้วเลือกตั้ง สว.ใช้เงินจ้างคนไปลงสมัคร สว.กว่า 1,200 คน เพื่อให้กาเบอร์ตามโพยที่กำหนดไว้
จนสามารถฮั้วเลือกตั้งได้เป็น สว.ถึง 138 คน
ประเมินวงเงินที่ใช้ฮั้วเลือกตั้ง สว. ตั้งแต่ก่อนยื่นใบสมัครไปถึงระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
...
หรือเฉลี่ย สว. 1 คน ต้องใช้เงินฮั้วเลือกตั้งราว 2 ล้านบาทต่อราย
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่า “คดีฟอกเงิน” ซึ่งเป็นสถานีต้นทางของ “คดีฮั้วเลือกตั้ง สว.” จะสามารถส่งฟ้องกลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิดต่อศาลอาญาภายใน 6 เดือน!!
และ “คดีฟอกเงิน” จะขยายผลไปถึงข้อหาร่วมกันกระทำความผิด
“ฐานอั้งยี่ซ่องโจร” เพราะเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องกัน
ข้อสำคัญคือ คดีฟอกเงินต้องฟ้องศาลอาญา
ไม่ต้องผ่าน กกต. ไม่ต้องผ่าน ป.ป.ช. และไม่ต้องผ่านศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วน “คดีฮั้วเลือกตั้ง สว.” เป็นหน้าที่ของ กกต.ดำเนินการไต่สวนต่อไป
อย่าไปเซ้าซี้กวนใจ กกต.ให้มากเรื่องมากความ
แต่คดีฟอกเงิน (อาจรวมถึงคดีอั้งยี่ซ่องโจร) ดีเอสไอต้องเดินหน้าสุดซอย
และคดีอาญาต้องไปจบที่ศาลอาญา!!
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าข้อแตกต่างระหว่างคดีทุจริตเลือกตั้งของ กกต. และคดีฟอกเงินของดีเอสไอคือ...
คดีทุจริตเลือกตั้งของ กกต. ต้องหลุดจากตำแหน่ง สว. และถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี!!
แต่คดีฟอกเงินของดีเอสไอนอกจากต้องหลุดจากตำแหน่ง สว.
ยังต้องย้ายที่นอนด้วยนะโยม.
"แม่ลูกจันทร์"
คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม