“ภูมิธรรม” เผยบอร์ด กคพ. มีมติ 11 ต่อ 4 งดออกเสียง 3 รับคดีฐานความผิดฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่ง สว. เมื่อปี 2567 เป็นคดีพิเศษ รับบอร์ดหนักใจ แต่ทุกคนทำงานรอบคอบ ส่วนคดีฮั้วเลือก สว. ให้เป็นหน้าที่ กกต. สอบสวน
วันที่ 6 มีนาคม 2568 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่อาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้จัดการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 3/2568 มีวาระเพื่อพิจารณากรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำผิดเป็นอั้งยี่ หรือคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตามมาตรา 209 แห่งประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากการประชุมในคราวที่แล้ว ได้มีมติให้ถอนเรื่องดังกล่าวและให้นำเสนอต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเพื่อพิจารณามีความเห็น และให้นำกลับมาเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษเพื่อพิจารณาอีกครั้งในวันนี้
ซึ่งที่ประชุมมีประเด็นต้องพิจารณาข้อสงสัยของอนุกรรมการคดีพิเศษเกี่ยวกับการฟอกเงินทางอาญาว่าเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) หรือไม่ อันเป็นอำนาจของคณะกรรมการคดีพิเศษในการชี้ขาดข้อสงสัย ตามมาตรา 21 วรรคห้า
โดยที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานกรรมการคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รองประธานกรรมการคดีพิเศษ นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมประชุมในฐานะกรรมการคดีพิเศษด้วย ซึ่งมี พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม 18 คน
ต่อมาเวลา 11.37 น. หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น นายภูมิธรรม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี ได้แถลงข่าวร่วมกัน โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่มีมติชี้ขาดให้กรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำผิดเป็นอั้งยี่ ที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งวุฒิสมาชิก เมื่อ พ.ศ. 2567 ตามที่ฝ่ายเลขานุการเสนอมา เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ส่วนคดีอาญาใดที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้องกับคดีพิเศษดังกล่าว เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคสอง เพื่อทำการสอบสวนต่อไป ทั้งนี้ หากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษพบการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 77 (1) อันอยู่ในหน้าที่และอำนาจของสำนักงาน กกต. ให้แจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบเพื่อพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจต่อไป โดยไม่ต้องมีมติให้คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แต่อย่างใด
...
โดยในที่ประชุม 18 เสียง มีมติเห็นชอบในกรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงิน 11 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง ด้วยเหตุผลที่บางท่านจะต้องมีการชี้ขาดในคดีต่อไปจึงงดออกเสียง
ด้านพันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า การรับรองคดีฟอกเงินนี้เป็นการรับรองให้เป็นคดีพิเศษโดยอัตโนมัติ ตามท้ายพระราชบัญญัติคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) โดยจะให้พนักงานอัยการมาร่วมสอบสวนด้วย เพื่อให้การปฏิบัติงานมีความโปร่งใส ส่วนขั้นตอนต่อไป เป็นเรื่องที่ดีเอสไอ จะไปตั้งคณะพนักงานสอบสวนด้วย แต่ในส่วนที่เป็นของ กกต. ได้มีการประสานงานกับ กกต. อยู่แล้ว หนังสือฉบับนั้นยังไม่ยกเลิก ซึ่งข้อหาการฟอกเงิน เกิดมาจากฐานข้อหาอั้งยี่ หากมีความผิดอาญาอื่นก็จะนำมาประกอบของพนักงานสอบสวน อีกทั้งการทำคดีพิเศษอยู่ตามพยานหลักฐาน และต้องให้ความเป็นธรรมของทุกฝ่าย
ด้านนายภูมิธรรม กล่าวยอมรับคณะกรรมการทุกคนมีความหนักใจ เพราะเป็นประเด็นที่เกี่ยวพันกับสถาบันนิติบัญญัติ จึงได้กำชับในที่ประชุมว่าจะต้องใช้ดุลยพินิจที่ละเอียดรอบคอบโดยอิงข้อกฎหมายและข้อมูลต่างๆ ตนก็ได้แจ้งที่ประชุมว่าการพิจารณาวันนี้ไม่เกี่ยวเรื่องตัวบุคคล ไม่เกี่ยวเรื่องการเมือง และทราบดีว่าแต่ละคนมีความกังวลใจหากทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรก็จะมีผล
“เราเชื่อว่าเราได้ทำสิ่งที่รอบคอบที่สุดแล้ว มีการพูดคุยกันทุกฝ่าย ข้อโต้แย้ง เราได้กลับไปตามกลับมาทั้งหมด คิดว่าเราตัดสินใจไปแล้ว เรารับผิดชอบ ไม่น่ามีปัญหาอะไร เราทำถูกต้อง ตามกฎหมาย และกระบวนการทั้งหมด และวันนี้ยังเป็นกระบวนการที่รับมาเพื่อสอบสวนสืบสวน ทั้งหมดก็อยู่ที่ศาลยุติธรรมที่จะไปตัดสินขั้นตอนสุดท้ายอยู่ดี เราไม่ใช่ผู้ชี้ขาดความถูกความผิด” นายภูมิธรรม
เมื่อถามถึงจำนวนเสียงในการชี้ขาดและรับคดีฮั้วเลือก สว. ต้องมี 15 เสียงนั้น นายชาติพงษ์ จีระพันธุ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านกฎหมาย กล่าวว่า การรับคดีพิเศษในคดีฮั้วเลือก สว. ในคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) ต้องรับ 2 ใน 3 ของคณะกรรมการบอร์ดที่มีอยู่ คือ 15 เสียง แต่คดีนี้เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) ที่เป็นคดีฐานฟอกเงิน จึงใช้ พ.ร.บ.พิธีปฏิบัติตามปกครอง จึงให้นับคะแนนเสียงข้างมากของที่ประชุม ซึ่งถือเป็นคนละวรรคกัน ส่วนเหตุผลผู้ที่ไม่เห็นชอบไม่สามารถเปิดเผยได้