“ธรรมนัส พรหมเผ่า” ยัน 34 เสียงพรรคกล้าธรรม พร้อมยกมือหนุนนายกฯ ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขอไม่วิจารณ์ “ลุงป้อม” ลุกขึ้นอภิปราย แต่ถ้ายังอยู่ด้วยไม่ให้ทำแน่ มอง “เนวิน-อนุทิน” เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า พบ “ทักษิณ” เคลียร์รอยร้าวเป็นเรื่องปกติ พรรคอื่นก็ไปกัน ปัดตอบ ครม. ทำหนังสือถามกรอบจริยธรรมปูทางคัมแบ็กนั่งรัฐมนตรี

วันที่ 6 มีนาคม 2568 เมื่อเวลา 08.25 น. ที่พรรคกล้าธรรม (กธ.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกธ. ให้สัมภาษณ์ถึงจำนวนเสียงสส. พรรคกธ. ขณะนี้ว่า ถ้าหากนับอย่างไม่เป็นทางการคือ 34 เสียง ส่วน สส.พรรคกธ. อย่างเป็นทางการคือ 24 เสียง และการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงนี้ เสียงพรรคกธ. จะไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

เมื่อถามว่า จะบอกได้หรือไม่ว่า 34 เสียง มาจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กี่เสียง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า 24 เสียงจากพรรคกธ.ส่วนอีก 10 เสียงไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อถามว่า จะมี สส. พรรคพปชร.มาเพิ่มอีกหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่าสุดท้ายแล้ว สส.พรรคพปชร.จะย้ายมาอยู่ด้วย ตอนนี้มีการแสดงความจำนงแล้วหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้เป็นวันมงคล ไม่อยากพูดถึงพรรคนู้นพรรคนี้ แต่เรายืนยันเสียงสนับสนุนรัฐบาลมี 34 เสียง

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะนำอภิปรายในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ จะต้องเตรียมทีมประท้วงช่วยนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง มีสิทธิที่จะอภิปรายตามสไตล์ของท่าน ส่วนจะมีข้อมูลเด็ดหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ

...

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เคยใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร พอจะทราบว่ามีข้อมูลหรือลีลาการอภิปรายเป็นแบบใด ร.อ.ธรรมนัส ตอบทันทีว่า “ในฐานะที่เคยใกล้ชิด ถ้าผมยังอยู่ ผมคงไม่ให้ท่านอภิปราย” เมื่อถามอีกว่า ถือเป็นมิติใหม่หรือไม่ ที่พล.อ.ประวิตร จะอภิปรายด้วยตัวเอง ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า “ถ้าคนรักท่าน ก็ต้องรักท่านจริงๆ” เมื่อถามย้ำว่า แปลว่าถ้ารักท่านไม่ควรให้ท่านอภิปรายใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ แต่หมายถึงถ้าผมยังอยู่” ต่อข้อถามว่า มองว่า พล.อ.ประวิตร ถูกหลอกหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เพราะไม่ใช่พรรคเรา

เมื่อถามถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ทำหนังสือสอบถามศาลรัฐธรรมนูญถึงความชัดเจนคุณสมบัติรัฐมนตรีในเรื่องจริยธรรมที่ถูกดำเนินคดีว่าเห็นควรมีกรอบอย่างไร ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการถามเพื่อเปิดทางให้ ร.อ.ธรรมนัสกลับมาเป็นรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกัน และการที่ครม.ถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตนก็ไม่ทราบเรื่อง เมื่อถามว่า มั่นใจว่าตนเองมีคุณสมบัติรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องอย่าลืมว่าตนเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว 2 สมัย และมีคำพิพากษาศาลชัดเจน ซึ่งเป็นประเด็นของตน อย่าไปหลงประเด็น

เมื่อถามว่า หากมีการปรับครม.พร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปมองอะไรไกลขนาดนั้น รัฐมนตรีทั้ง 3 คนที่ตนส่งไปดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ยังทำหน้าที่ได้ดี อย่าไปคิดเรื่องปรับครม.เมื่อถามอีกว่า หากมีเสียง สส. เพิ่มขึ้นจะต้องเพิ่มโควตารัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ใช่อำนาจของเรา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยมีการพูดคุยกับแกนนำรัฐบาลหรือพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือไม่ เพราะมีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในเรื่องของการเมืองในฐานะที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แม้ว่าเราจะเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค แต่การพูดคุยต้องคุยกับหัวหน้าพรรค คือนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และจะเป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนการประสานงานเรามีหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค การประชุมทุกครั้งก็จะเชิญหัวหน้าและเลขาธิการพรรค รวมถึงก่อนจะไปร่วมก็ได้มีการปรึกษากันในพรรคทุกเรื่องอยู่แล้ว

ขณะที่ด้านนางนฤมล กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณเรื่องของการปรับครม.แต่อย่างใด

เมื่อถามถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ครูใหญ่แห่งพรรคภูมิใจไทย(ภท.)เข้าพบนายทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ขณะที่ยังมีปัญหาความขัดแย้ง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัวเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าพรรคใดก็ตาม ที่เข้าไปหารือทั้งเรื่องส่วนตัวและพรรคร่วมรัฐบาล หลายพรรคก็เข้าไป แต่ไม่เป็นประเด็น เราอย่าไปคิดมาก ดังนั้น อย่าไปคิดมาก เป็นเรื่องปกติ มีทุกพรรคไม่ใช่เฉพาะพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลทำงานครบเทอมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องแยกแยะระหว่าง 2 สภาฯ สส.กับการได้มาซึ่ง สว. ไม่เกี่ยวกัน และในเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลมีการคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว รัฐบาลก็เดินหน้าต่อได้