"สส. ไอซ์" บุกสำนักงานประกันสังคม จี้เปิดเผยรายงานการประชุมบอร์ดฯ กระตุ้นนายกรัฐมนตรีตัดสินใจควบรวม สปส. กับ สปสช. พร้อมชวนผู้ประกันตนทั่วประเทศรอฟังมติ 12 มี.ค. เงินสมทบมาตรา 39
วันที่ 4 มีนาคม 2568 นางสาวรัชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน เดินทางมาที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพื่อหารือกับนางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการประกันสังคม ถึงแนวทางการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการบริหารจัดการประกันสังคม ภายหลังการหารือทั้ง 2 คนออกมาแถลงร่วมกันโดยเลขาธิการประกันสังคมให้คำยืนยันว่า ได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการเป็นไปตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร การเผยแพร่ข้อมูลผลการประชุมและมติบอร์ดให้นำขึ้นเผยแพร่ในเว็บไซต์สำนักงานโดยเร็ว ส่วนเรื่องการควบรวมกองทุน สปส. กับสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยังไม่มีคำตอบ แต่จะขับเคลื่อนร่วมกันต่อไป
นางสาวรัชนก กล่าวถึงหนังสือเวียนที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลที่ สปส. นำมาให้ดูว่า หนังสือเหล่านี้ไม่ปกติ เข้าใจว่า สปส. มีคนสั่งมาอีกที จึงเห็นใจข้าราชการ และหวังว่าการเปิดเผยข้อมูลของ สปส. จะดีขึ้น เพราะ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ระบุชัดว่ามติของบอร์ดที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรืออำนาจของกฎหมายต้องเปิดเผยได้ ถ้าไม่ได้อยู่ในชั้นความลับตามที่ตกลงกันไว้ แต่คนที่มีปัญหาคือบอร์ดของนายจ้างที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล ซึ่งความต้องการส่วนตัวไม่สามารถอยู่เหนือกฎหมายได้ และที่ผ่านมาไม่เคยทำตามกฎหมาย อาจเข้าข่ายการทำผิดตามมาตรา 157 แม้เลขาธิการ สปส. รับปากจะรีบดำเนินการภายใน 1 สัปดาห์ ก็จะติดตามจับตาดู หากยังไม่เปิดเผยอย่างละเอียดตนก็มีวิธีการที่จะดำเนินการตามหน้าที่
ส่วนเรื่องการควบรวม 3 กองทุน เข้าใจว่าข้าราชการในระดับปฏิบัติการไม่สามารถตัดสินใจแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ แต่ความพร้อมการควบรวมบอร์ดฯ แรงงานจะต้องเป็นคนชี้แจง แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะตีความกฎหมายอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องที่คาบเกี่ยวระหว่างกระทรวง และเรื่องนี้คนที่มีอำนาจการตัดสินใจได้นายกรัฐมนตรี จึงอยากฝากให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตัดสินใจเรื่องที่ค้างคาใจมา 23 ปีแล้ว หากนายกรัฐมนตรีไม่ตัดสินใจ ชาตินี้คงไม่ได้การควบรวม ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องมีความจริงใจในการแก้ปัญหานี้ ต้องกำหนดระยะเวลาว่าอีกกี่ปีการควบรวมจะเกิดขึ้น เพราะเรื่องสำคัญคือการกำหนดเวลา
...
สส.กทม. พรรคประชาชน ยังบอกด้วยว่า ขอให้ผู้ประกันตนทั่วประเทศจับตาดูในการประชุมบอร์ดแรงงานวันที่ 12 มีนาคม 2568 โดยเฉพาะผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่จะได้รับเงินจาก 5,000 บาท เหลือ 1,500 บาท ให้ฟังว่าแต่ละคนที่มาจากบอร์ดไตรภาคีตัดสินใจอะไรบ้าง เพราะเงินก้อนนี้คือแหล่งพักพิงก้อนสุดท้ายของผู้ประกันตนที่ส่งเข้ามา จากเดิมต้องได้ 5,000 บาท แต่ต้องมารับเงิน 1,500 บาท มันหายไปเยอะมาก หากบอร์ดฯ ยังอ้างว่าไม่เข้าใจอีกก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่อยากให้ผู้ประกันตนออกมาเรียกร้องปกป้องสิทธิ์ตัวเอง