“จิรายุ” มอง นิด้าโพลมีคำถามปลายเปิดแบบอคติหรือไม่ หลังผลชี้คนไม่ค่อยพอใจการทำงานรัฐบาล ยกผลงาน 6 เดือน เป็นที่ประจักษ์ สัมฤทธิ์ผล เป็นรูปธรรมจับต้องได้ โวจากนี้ไทยจะยิ่งเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น
วันที่ 2 มีนาคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนิด้าโพล รายงานผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “6 เดือน รัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์” (อ่านเพิ่มเติม : ผลนิด้าโพล ชี้ คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยพอใจ-ไม่ค่อยเชื่อมั่น “แพทองธาร-รัฐบาล”)โดยชี้นำผลสรุปว่าประชาชนไม่ค่อยพอใจผลงานรัฐบาลนั้น พบข้อบ่งชี้ว่าโพลชิ้นนี้อาจมีคำถามปลายเปิดแบบอคติหรือไม่ ขณะที่รัฐบาลก็มีการสำรวจความคิดเห็นเป็นประจำทุกเดือน ส่วนใหญ่เห็นว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว ทั้งในด้านการแก้ไขปัญหาสังคมและเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ เห็นได้อย่างชัดเจนที่เป็นตัวเลขที่มีรูปธรรมเติบโตถึง 3.2% ในไตรมาสที่ผ่านมา และคาดว่าไตรมาสที่ 1 ของปีนี้จะมีการเติบโตมากยิ่งขึ้นจากนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล
นายจิรายุ ระบุต่อไปว่า เกือบ 6 เดือนที่ผ่านมา ที่รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ได้ทำผลงานเด่นเป็นรูปธรรมไว้มากมาย พร้อมยก 5 เรื่องที่อยู่ในใจประชาชน อาทิ
1. การปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ โดยการใช้กลไกความร่วมมือระหว่างประเทศไทย-เพื่อนบ้าน ระเบิดสะพานโจร ซีลชายแดนทุกด้าน ตัดเส้นทางข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย ตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต น้ำมัน ระงับบัญชีม้ากว่าล้านบัญชี ออกกฎหมายจัดการคอลเซ็นเตอร์และไซเบอร์ เจ้าของแอปพลิเคชัน ธนาคาร เครือข่ายมือถือ ร่วมรับผิดชอบความเสียหายต่อประชาชน
2. เงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจกระจายตัวลงไปในทุกพื้นที่ สู่กลุ่มเปราะบางในจังหวัดที่มีความยากจนสูง เงินหมุนเวียนเข้าสู่ร้านค้าขนาดเล็กและชุมชน ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจปรับตัวสูงขึ้น ดำเนินการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่นายกฯ ได้แถลงต่อรัฐสภา
...
3. บ้านเพื่อคนไทย รูปธรรมคำสัญญาจากรัฐบาล ว่าจะทำให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี โดยใช้พื้นที่ของรัฐที่มีศักยภาพพัฒนาให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ทำให้คนไทยเข้าถึงที่อยู่อาศัย ไม่ต้องมีเงินดาวน์ ผ่อนรายเดือนไม่สูง ได้บ้านคุณภาพดี

4. การดูแลสุขภาพของประชาชนในรูปแบบ 30 บาทรักษาทุกที่ ทำให้บริการมีสุขภาพดี ลดการเดินทางและสร้างให้คนไทยมีอายุยืนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายที่เห็นเป็นรูปธรรม
5. การเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการเชิญชวนนักลงทุนระดับโลกเข้ามาลงทุนในไทยจำนวนมากที่มีมูลค่าหลายล้านล้านบาทในช่วงเวลาเพียง 5 เดือน ทั้งบริษัท Google TikTok NVIDIA และหลากหลายบริษัททั่วโลกทำให้เห็นถึงอนาคตของประเทศไทยในด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เดินมาถูกทางแล้ว รวมถึงการทำ GDP ปี 2567 โตขึ้นทุกไตรมาส ดึงการลงทุนเข้าประเทศสูงสุดในรอบ 10 ปี มูลค่าหลายล้านล้านบาท ทุบสถิติการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 10.5 ล้านล้านบาท และทุบสถิติส่งออกสินค้าประมงทำรายได้ 2.4 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น นำไปสู่การปรับตัวสูงขึ้นของค่าแรงในภาพรวม เมื่อบริษัทต่างชาตินำเงินมาลงทุนในประเทศ จะสร้างประโยชน์ให้กับระบบเศรษฐกิจโดยรวม
ในช่วงท้าย นายจิรายุ ยังระบุด้วยว่า “การทำงานของรัฐบาล ในช่วงเกือบ 6 เดือนที่ผ่านมาที่เห็นเป็นรูปธรรม จะเริ่มทยอยออกดอกออกผล สร้างความมั่นคงมั่งคั่งให้กับประเทศและประชาชนได้ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ยังมีนโยบายที่เป็นผลสำเร็จอย่างมีรูปธรรม เช่น การปราบปรามยาเสพติด บุหรี่ไฟฟ้า การเจรจาค้าขายระหว่างประเทศการลดขั้นตอนให้กับนักลงทุนและเศรษฐกิจต่างๆ ทำให้นักลงทุนมาลงทุนได้ง่ายมากขึ้น”