อภิปรายไม่ไว้วางใจ 68 “วิสุทธิ์” ยันซักฟอก 1 วันพอแล้ว “ดนุพร” เชื่อศักยภาพ “อิ๊งค์” เผย พรรคเตรียมถกข้อกฎหมายถ้าพาดพิง “ทักษิณ” ด้าน “สุทิน” จัดทีมเพื่อไทยอคาเดมีรับมือ ขออย่าเรียกองครักษ์พิทักษ์นายกฯ

วันที่ 2 มีนาคม 2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมวิป 3 ฝ่ายเพื่อหาข้อสรุปวันอภิปรายจากกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นคนนัดโดยบรรจุระเบียบวาระแล้วจึงจะเรียกประชุมวิป 3 ฝ่าย แต่ขณะนี้ยังไม่มีการบรรจุ

เมื่อถามว่ายังยืนยันจะให้ฝ่ายค้านเพียงแค่ 1 วันหรือไม่ นายวิสุทธิ์ ตอบว่า เมื่อก่อนเรียกร้องว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีเป็น 10 คน แล้วจะใช้เวลา 5 วัน แต่ตอนนี้อภิปรายนายกฯ เพียงคนเดียว ใช้เวลา 1 วัน จาก 09.00 - 24.00 น. ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้มากกว่านั้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีเปิดอภิปรายคนเดียวแต่ใช้เวลา 5 วัน โดยมองว่าให้เวลานายกฯ หรือรัฐมนตรีคนอื่นไปทำงานดีกว่า และโดยมารยาทเขาไม่พูดก่อน ต้องพูดคุยกันในวิป 3 ฝ่าย ซึ่งยังไม่ได้พูดคุยกันแต่กลับประโคมข่าวจะอภิปราย 5 วันมา 2 สัปดาห์แล้ว ตีฆ้องร้องเปล่ากัน สุดท้ายยื่นอภิปรายคนเดียว ฉะนั้น 1 วันเพียงพอแล้ว

ส่วนที่มีการนำไปเปรียบเทียบกับสมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า มากกว่าแล้วอภิปรายรัฐมนตรีกี่คน ฉะนั้นต้องดู เพราะเราจะให้เวลาอภิปรายตามจำนวนคน ไปประกาศว่าต้องได้ 5 วัน ถ้าไม่ได้ก็เป็นแบบนั้นแบบนี้ จะพูดไปทำไม ถ้าพูดเช่นนั้นก็รอให้คุณเป็นรัฐบาลก่อนแล้วค่อยเอา 5 วัน แต่ตอนนี้เป็นฝ่ายค้านต้องฟังเราบ้าง วันเดียวเหมาะสมแล้ว จะเอาไม่เอาก็เรื่องของเขา ไม่อภิปรายก็ได้ พวกตนไม่ได้เดือดร้อน ให้วันเดียวนั่นแหละ

...

ผู้สื่อข่าวถามต่อ อภิปรายครั้งนี้มีการมุ่งเป้าไปที่นายกฯ เพียงคนเดียว ในฐานะวิปรัฐบาลจะช่วยรับมืออย่างไร นายวิสุทธิ์ ตอบว่า ในข้อบังคับเขียนชัดเจนว่านายกฯ จะให้ใครมาตอบแทนก็ได้ และนายกฯ คงตอบคนเดียวไม่ไหว เพราะมีเวลาตั้ง 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาตอบ ของนายกฯ เองคงจะตอบในส่วนที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติจริงๆ ตนเชื่อมั่นว่าไม่มีปัญหาอะไรเรื่องการตอบชี้แจงของนายกฯ เพราะนายกฯ มีความรู้ความสามารถพอและเกิดมาอยู่บ้านนักการเมืองตั้งแต่เด็ก ไม่มีอะไรที่น่าเป็นกังวลสักอย่าง

ขณะที่ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า การอภิปรายนายกฯ คนเดียว ก็เท่ากับอภิปรายคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ เราไม่กังวล ในเชิงลึกจริงๆ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจะทราบมากกว่านายกฯ และพร้อมจะชี้แจงอยู่แล้ว ก็จะต้องช่วยกัน และตนเชื่อศักยภาพนายกฯ ชี้แจงได้อยู่แล้ว เพราะตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่งจนถึงวันนี้ น.ส.แพทองธาร สามารถปรับตัวได้เร็วและมีข้อมูลรอบตัวเยอะ ส่วนตัวตนมองว่าไม่จำเป็น แต่เนื่องจากในญัตติที่ฝ่ายค้านไปที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดาของ น.ส. แพทองธารด้วย ซึ่งจะต้องมาพิจารณากันว่าจะให้ฝ่ายค้านพาดพิงได้มากน้อยแค่ไหน เพราะนายทักษิณไม่ได้อยู่ใน ครม. ไม่มีโอกาสที่จะมาชี้แจง และก็ขึ้นอยู่ที่ประเด็นด้วย หากเป็นประเด็นอ่อนไหว แล้วเราสามารถชี้แจงได้ ประชาชนก็จะได้ทราบว่าสิ่งที่เขาพาดพิงมานั้นไม่ใช่เรื่องจริง พรรคเพื่อไทยจึงจะคุยกันข้อกฎหมายวันที่ 4 มีนาคม 2568 ว่าประเด็นอะไรบ้างที่ไม่ควรพูดในสภาฯ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายทักษิณ จะตั้งวอร์รูมอาจจะที่สภาฯ วันอภิปราย นายดนุพร ตอบว่า ไม่จริง ตนไม่ได้ยินและเชื่อว่าไม่มา หากจะมีตั้งวอร์รูมอาจจะเป็นตนและเลขาธิการพรรคมากกว่า แต่ตั้งแค่เพื่อเตรียมความพร้อมชี้แจง เพื่อป้องกันไม่ให้ใครนำข้อมูลเท็จไปบิดเบือนทำสังคมสับสนเท่านั้น ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านยังมีท่าทียืนยันอยากได้วันอภิปรายมากกว่า 1 วัน รวมถึงมองว่ารัฐบาลใจแคบเมื่อเทียบกับสมัย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ กลับได้เวลามากกว่านี้ นายดนุพร มองว่า การอภิปรายขึ้นอยู่กับว่ายื่นอภิปรายทั้งหมดกี่คน และเรื่องที่ยื่นอภิปรายแต่ละคนอะไรบ้าง แต่ครั้งนี้ยื่นอภิปรายเพียงแค่นายกฯ คนเดียว จะใช้เวลา 5 วันก็โหดร้ายเกินไป ต้องดูเอาตามความพอดี ซึ่งเป็นหน้าที่วิปรัฐบาลและฝ่ายค้านคุยกันว่าต้องเป็นกี่วันที่จะไม่ยืดเยื้อและทำให้คนฟังเบื่อ

สำหรับคำถามที่มีการมองว่าเหลือแค่วันเดียว เพราะต้องการปกป้องนายกฯ ไม่ให้ถูกถล่มจนบอบช้ำ นายดนุพร ระบุว่า ต่อให้นายกฯ ไม่บอบช้ำในสภาฯ ฝ่ายค้านก็สามารถจะมาแถลงด่านายกฯ ให้บอบช้ำรายวันได้อยู่แล้ว และโลกออนไลน์ก็ไปเร็ว ซึ่งความรู้สึกตนก็ว่า 1 วันน้อยไป ตนอยากให้ฝ่ายค้านทำงานการตรวจสอบ เพื่อให้ประชาชนที่ฟังอยู่จะได้สิ้นข้อสงสัย ถ้า 1 วันก่อนเที่ยงคืนจะต้องจบแล้ว หากยังมีประเด็นสงสัยก็ไม่จบและคนที่จะถูกตำหนิก็คือรัฐบาล ฉะนั้น ตนมองว่าการมาตอบคำถามในสภาฯ สง่างามกว่าในฐานะคนเป็นนายกฯ คนเป็นรัฐมนตรี รวมถึงฝ่ายค้านด้วย ถ้าไปถามต่อนอกสภาฯ ก็ดูไม่สง่างาม

ทางด้าน นายสุทิน คลังแสง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงความพร้อมพรรคเพื่อไทย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะต้องมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือไม่ ว่า ขออย่าเรียกว่าทีมองครักษ์พิทักษ์นายกฯ แต่เป็นทีม PTP Academy หรือ พรรคเพื่อไทย อคาเดมี ประกอบด้วย สส.รุ่นใหม่ รุ่นเก่า รัฐมนตรี นักวิชาการทั้งในพรรคและนอกพรรค ในการเตรียมข้อมูลที่จะใช้ในการอภิปราย ดูแลเรื่องข้อมูล รวมถึงจะมีทีมที่ดูแลรักษาข้อบังคับในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และทีมอธิบาย คือ ทีมประชาสัมพันธ์พรรค หรือ ทีมโฆษกของพรรค ช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยหากประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับสภาหรือพรรค

เมื่อถามว่า นายสุทิน เป็นหนึ่งในทีมหรือไม่ นายสุทิน ตอบว่า ตนเป็นหนึ่งในทีม สส. ดูแลรักษาข้อบังคับช่วยในเวทีสภาฯ ก็อาจจะลุกขึ้นช่วยชี้แจงบ้างเท่าที่จำเป็น โดยพรรคมอบหมายให้ตนเป็นคนจัดทีม ตอนนี้ยังไม่จัดทีม คิดว่าจะมี สส.รุ่นเก่า รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ คาดว่ารวมกันประมาณ 10 คน ซึ่งจะมีการพูดคุยกันสัปดาห์หน้าในการประชุมพรรคเพื่อไทย

ส่วน นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาวิปรัฐบาล โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) กรณีฝ่ายค้านจะขอเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เป็นเวลา 5 วัน ว่า มีเหตุผลอะไรถึงจะขออภิปราย 5 วัน การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เพียงคนเดียว แต่จะขอใช้เวลาถึง 5 วันนั้น ไม่สมเหตุสมผลอย่างมาก ถ้าเราดูจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ครั้งก่อนๆ จะพบทุกครั้งนั้น จะใช้เวลารวมโดยประมาณ 50-60 ชั่วโมง โดยจำนวนของผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในแต่ละครั้งย่อมมีผลต่อเวลาในการอภิปราย เช่น ในปี 2565 ที่ใช้เวลามากที่สุด ก็ใช้เวลาในการอภิปราย 60 ชั่วโมง โดยมีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย 11 ท่าน และมีการพาดพิงอีก 7-8 ท่าน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-4 วันเสมอ

“การยื่นจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีท่านเดียว แต่จะขอเวลาถึง 5 วันนั้น จึงเป็นการขอเกินจริงและไม่มีเหตุผล ถ้าคำนึงถึงจำนวนและสัดส่วนของฝ่ายค้าน ก็แตกต่างจากการอภิปราย 151 ครั้งก่อนๆ ในฐานะที่ทำหน้าที่เลขาวิปรัฐบาลและได้มีส่วนร่วมกับการประชุมร่วมกันในทุกๆ ครั้ง เรื่องนี้เป็นปัจจัยที่ใช้กำหนดระยะเวลา และประเด็นสุดท้ายคือ ญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอในการอภิปรายท่านนายกฯ เพียงคนเดียวนั้น หากคำนึงถึงช่วงเวลาที่ท่านนายกฯทำหน้าที่ได้เต็มที่คือประมาณ 5-6 เดือนเท่านั้น จึงเป็นที่กังขาว่าการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจท่านนายกฯ เพียงคนเดียว เป็นไปตามหลักฐานและเหตุผล หรือเป็นเพียงความต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมือง”