รัฐบาลไทยเผย ส่ง 45 อุยกูร์กลับจีนเป็นไปตามการร้องขอ จีนยืนยันให้ความเคารพต่อเรื่องสิทธิมนุษยชน ชี้บุคคลเหล่านี้กลับคืนสู่ครอบครัว พร้อมให้ไทยร่วมสังเกตการณ์ พร้อมเตรียมแถลงให้ดูเรื่องความปลอดภัย
วันที่ 27 ก.พ. 2568 ที่กระทรวงยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลตำรวจตรี ธนิต ไทยวัชรามาศ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นายสรพงค์ ศรียานงค์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงข่าว
นายจิรายุเปิดเผยว่า นายฉัตรชัย บางขวด เลขาฯ สมช. พร้อมพลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง รองผบ.สตช. อยู่ที่เมืองซินเจียง อุยกูร์ ประเทศจีน ในฐานะผู้นำส่งชาวจีนเชื้อสายอุยกูร์ไปยังประเทศจีน โดยยืนยันว่า รัฐบาลจีนได้มีคำขออย่างเป็นทางการโดยหนังสือทางการทูต ขอให้รัฐบาลไทยส่งคนจีนเชื้อสายอุยกูร์ จำนวน 45 คน ที่กระทำความผิดโดยได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงถูกจับกุม และกักกันอยู่ในประเทศไทยมากว่า 10 ปีแล้ว โดยไม่มีข้อหาอื่นใด (ยกเว้นบางคนที่ทำการแหกห้องขัง และทำร้ายเจ้าหน้าที่)
...
รัฐบาลจีนยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวเป็นคนสัญชาติจีนทั้งหมด พร้อมได้มอบหลักฐานและเอกสารประกอบ ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีความผิดเพียงเล็กน้อย เป็นเรื่องการเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดที่ร้ายแรงอื่นใด ดังนั้นเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศจีน จะได้รับอนุญาตให้กลับคืนสู่ครอบครัวได้โดยตรง และกลับคืนสู่การดำรงชีวิตโดยปกติ และให้การรับรองอย่างเป็นทางการและหนักแน่นว่าจะให้ความปลอดภัยแก่บุคคลเหล่านี้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้รัฐบาลจีนพร้อมให้ฝ่ายไทยร่วมสังเกตการณ์ ในขณะที่คนเหล่านี้เดินทางไปถึงเพื่อยืนยันว่าเป็นไปด้วยความปลอดภัย และกลับคืนสู่ครอบครัวด้วยความปลอดภัย และเพื่อแสดงให้เห็นว่าจีนให้ความเคารพต่อเรื่องสิทธิมนุษยชน พร้อมให้คณะผู้แทนจากฝ่ายไทยเข้าไปสังเกตการณ์เป็นระยะๆ ว่าคนเหล่านี้ได้กลับไปสู่ครอบครัว และกลับไปดำรงชีวิตโดยปกติ และได้รับความปลอดภัย โดยทางรัฐบาลจีนพร้อมที่จะแถลงอย่างเป็นทางการยืนยันในการให้ความปลอดภัยแก่บุคคลเหล่านี้
นายจิรายุกล่าวว่า สำหรับการพิจารณาของฝ่ายไทย ได้คำนึงถึงประเด็นต่างๆ เหล่านี้เป็นสำคัญ คือ
1. การส่งตัวชาวต่างชาติกลับประเทศเป็นอำนาจอธิปไตยของประเทศไทย เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงประเด็นที่ว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้สร้างปัญหาดังกล่าว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับปัญหา แต่กลับต้องแบกรับภาระในการดูแลบุคคลเหล่านี้มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี และแทนที่จะได้รับความเห็นใจ ได้รับความชื่นชม ได้รับความช่วยเหลือ สนับสนุน ที่ทุกฝ่าย (ทุกประเทศ) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องยอมรับร่วมกันได้ กลับถูกตำหนิ กดดันให้ดำเนินการตามความต้องการของตนเอง โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลใดๆ
ขอยืนยันว่าการส่งตัวบุคคลเหล่านี้กลับประเทศ มิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศอื่นใดทั้งสิ้น แต่เป็นไปเพื่อการแก้ไขปัญหาที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ถูกละเมิดสิทธิมากว่า 10 ปี ในขณะเดียวกันประเทศไทยต้องแบกรับภาระมาโดยตลอด
2. การดำเนินการเป็นไปตามหลักกฎหมายภายในของประเทศไทย
3. เป็นไปตามผลประโยชน์ของประเทศไทยในมิติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่างๆ อย่างรอบคอบ
4. เป็นไปตามพื้นฐานและหลักการเคารพด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะหลักการเรื่อง non-refoulement ที่จะไม่ส่งคนกลับไปโดยได้รับอันตราย เนื่องจากได้รับการยืนยันจากรัฐบาลจีนอย่างเป็นทางการ และให้คำรับรองอย่างหนักแน่นว่าจะให้การดูแลและรักษาความปลอดภัยให้กับบุคคลกลุ่มนี้อย่างเต็มที่
5. ได้รับการพิจารณาโดยรอบคอบโดยหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
6. บุคคลเหล่านี้ถูกกักขังด้วยข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และจะต้องถูกส่งกลับประเทศของตน ถูกกักขังอยู่ในสถานที่กักกันที่คับแคบมากว่า 10 ปีแล้ว และประชาคมโลกก็เห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ รัฐบาลไทยจะติดตามตรวจสอบหลังจากนี้ต่อไป