ที่ประชุม กมธ.ปกครอง ถกเดือด สส.ภูมิใจไทย ดาหน้าไล่บี้ “ธนดล” จี้สอบโรงแรมนายกฯ ที่เขาใหญ่ ด้าน “พลพีร์” ลั่นมองมิติอื่นไม่ได้นอกจากเอาคืนการเมือง แถมทำลายปากช่อง ขณะที่ “ธนดล” ยันทำตามหน้าที่เพื่อป้องกันและป้องปราม
วันที่ 26 ก.พ. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร วาระการพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาการทับซ้อนที่ดินของรัฐ กรณีศึกษาพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ที่ได้เชิญนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูล โดยนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกมธ.ฯ กล่าวว่า กมธ.ติดตามปัญหากรณีปัญหาที่ดินทับซ้อน ซึ่งการลงพื้นที่ของนายธนดลในจังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นกรณีศึกษา โดย กมธ.ศึกษาปัญหาที่ดินทับซ้อน พบว่าที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หลายแห่งมีทั้งการถูกบุกรุกและใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ ตนเชื่อบริสุทธิ์ใจว่า นายธนดลไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง แต่เป็นจังหวะการเมือง อยากทราบว่า การตรวจสอบที่ดินปากช่องมีหลักเกณฑ์อย่างไร ไม่เช่นนั้น ส.ป.ก. อาจถูกกล่าวหาว่า ทำให้เป็นประเด็นการเมือง
ด้านนายธนดล ชี้แจงว่า ตนเป็นคณะที่ปรึกษารมว.กระทรวงเกษตรฯ และเป็นประธานตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. ทั้งหมด 72 จังหวัด ที่รัฐมนตรีฯ แต่งตั้งตาม พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน ปี 2534 และใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินปี พ.ศ. 2518 การลงพื้นที่ตรวจสอบ ตนต้องประสานงานกับปฏิรูปที่ดินจังหวัดก่อนจะลงพื้นที่ และต้องยอมรับข้อเท็จจริงเมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า แทบจะไม่มีผู้ที่ได้รับที่ดินส.ป.ก.และใช้พื้นที่จริง แต่กลายเป็นผู้อื่นใช้พื้นที่แทน หรือเปลี่ยนมือ ส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ท ร้านกาแฟ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์การปฏิรูปที่ดิน ก็จะทำหนังสือเรียกมาชี้แจง สุดท้ายก็จะเป็นดุลพินิจของ ส.ป.ก.ในจังหวัดนั้นๆ ว่าจะเพิกถอนหรือไม่
...
“เวลาไปตรวจสอบแต่ละพื้นที่ มีทั้งผู้มีอิทธิพล อดีตนักการเมือง หรือนักการเมืองท้องถิ่น ที่จะฟ้องกลับเราได้ สิ่งที่ผมทำคือ น้อยคนจะทำจริงๆ เพราะต้องเจอผู้มีอิทธิพล ผู้มีอำนาจพิเศษ เมื่อตรวจสอบพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว ผมจึงแถลงข่าว ทำตามหน้าที่และกฎหมาย ไม่ได้มีเจตนาใดๆ ทั้งสิ้น ยืนยันว่า การไปตรวจสอบที่ดินปากช่อง เพราะเป็นที่ดินกลุ่มที่ 3 ตามที่มีการจัดทำหลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ (One Map) ผมไปมาหลายที่ แต่ไม่เป็นข่าว ซึ่งที่ดินปากช่องมีประชาชนที่ได้รับการจัดสรรที่ดินไม่ได้นำไปทำการเกษตร แต่นำที่ดินที่ได้รับจัดสรรไปขาย ทำให้ผิดวัตถุประสงค์ผิดกฎหมาย การที่ชุดตรวจสอบลงพื้นที่ตรวจสอบ เป็นการทำเพื่อป้องกันและปราบปราม ส่วนที่ดินที่มีปัญหาทับซ้อนจะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือให้เอกชนเข้ามาใช้พื้นที่ ก็ต้องแก้กฎหมาย” นายธนดล กล่าว
“พลพีร์” ชี้เอาคืนการเมือง แถมทำลายปากช่องไปแล้ว
ขณะที่นายพลพีร์ สุวรรณฉวี ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ถามว่า ในเมื่อแผนที่ One Map ยังไม่เสร็จ ท้ายที่สุดก็ต้องรอ One Map อยู่ดี ตนเป็นคนโคราช ขอถามอธิบดีกรมที่ดิน รวมถึงผู้ชี้แจงทุกคนว่า พื้นที่โคราชที่ถูกตรวจสอบ คาดว่าจะมีธุรกิจที่อยู่ในข่ายที่บุกรุกจำนวนเท่าไหร่ เพราะเมื่อตรวจสอบแล้วยังไม่สิ้นสุดกระบวนความ แต่มันทำลายปากช่องไปแล้ว คนที่จะมาลงทุน ก็ไม่อยากมา คนที่ถือโฉนดที่ปากช่อง ก็กลัวขาสั่นกันหมดว่า สิ่งที่ได้ซื้อมา หรือที่ถืออยู่ มันถูกต้องหรือไม่ กลัวว่าที่ดินจะโดนหรือไม่ และพอ One Map มา ก็ต้องมายื่นคัดค้านกันอีก ทั้งที่ในภาคเหนือก็มีทั้งคาเฟ่ สวนน้ำ ที่พักต่างๆ แต่ก็ไม่เห็นไปตรวจสอบ จึงมองเป็นมิติอื่นไม่ได้และ 22 สถานที่ ที่ไปมันก็ไม่ดังเท่าที่นี่ที่เดียว มันมองมิติอื่นไม่ได้
“ผมมองไม่เห็นว่า ประชาชนได้ผลประโยชน์อะไร แต่ที่เห็นคือประชาชนที่เป็นหนี้เป็นสิน ได้โฉนดมากะว่าจะเอาที่ไปขายเพื่อเอาเงินเลี้ยงดูครอบครัว หรือฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ทำไม่ได้แล้ว ฉะนั้น ไม่ว่าจะกี่หมื่นไร่ที่คิดว่า มันบวมหรือทับซ้อน บอกมาเลยว่า ธุรกิจที่ไปตรวจมา แล้วมันบวม มันมีกี่ที่ ประชาชนที่ถูกผลกระทบมีเท่าไหร่ สำคัญที่สุด พื้นที่ราชการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ข้อพิพาททับซ้อน มีที่ไหนบ้าง เพราะหากที่ราชการยังบุกรุก แล้วจะให้บริการประชาชนในพื้นที่จะทำอย่างไรเมื่อ One Map ของประเทศยังไม่เสร็จ ก็ขอให้ทำ One Map ของปากช่องก่อน ผมไม่ได้เป็นห่วง “แรนโช ชาญวีร์ฯ” หากเพิกถอนเมื่อไหร่ กรมที่ดินก็ต้องชดเชย ไม่ได้ห่วงทอสคาน่า โบนันซ่า แต่เป็นห่วงนาย ก. นาย ข. ที่มีที่ดิน 200 วา หรือ 1 ไร่ จะเดินกันต่ออย่างไร” นายพลพีร์กล่าว
“เจ้าตัว” ยันรับไม่ได้ที่ดิน ส.ป.ก.บวมรุกที่รัฐ
โดยนายธนดล กล่าวว่า ที่ดินจังหวัดนครราชสีมาทำ One Map แล้ว แต่ยังไม่ได้โอน ยืนยันว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินจังหวัดนครราชสีมาของตนไม่ผิด เพราะถ้าไม่มั่นใจ จะไม่ลงพื้นที่ และยอมรับว่า ที่ดิน ส.ป.ก.มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพไปแล้ว จากการตรวจสอบพื้นที่บวมงอกมาจากนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ทับที่ ส.ป.ก. จึงเป็นปัจจัยหลักในการลงพื้นที่ไปตรวจสอบเอกสาร ซึ่งตนเห็นด้วยกับกรมที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิ์ที่ได้จากนิคมฯ แต่ประเด็นที่ตนไม่เห็นด้วย คือ ที่ดินบวมออกไปทับที่ ส.ป.ก.เรื่อยๆ หากวันหน้าที่ดินของรัฐกลายเป็นที่ดินของเอกชน จะเป็นช่องว่างทางกฎหมาย นี่เป็นสิ่งที่ออกมาต่อสู้
“วัชรพงศ์” แนะสอบที่ดินโรงแรมนายกฯ ที่เขาใหญ่
นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ สส.สระบุรี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธาน และโฆษกคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า ต้องขอบคุณที่ไปตรวจสอบบางที่ที่เป็นประเด็น โดยเฉพาะการออกโฉนดทับที่ ส.ป.ก. ตนเห็นด้วยกับการที่ต้องนำกลับมาเป็นสมบัติของชาติ แต่ตนไปเห็นในรายการหนึ่ง เปิดประเด็นว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดสัญญาจัดการหุ้นของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบธุรกิจโรงแรมหรูเขาใหญ่ ก็เป็นที่สนใจว่า นายธนดล มีแนวคิด หรือมีโครงการที่จะไปตรวจสอบหลายๆ โรงแรมที่อยู่พื้นที่ติดเขาใหญ่หรือไม่ ตนอยากให้ไปตรวจสอบหลายๆ โรงแรมที่เป็นประเด็นข้อสงสัย เพื่อทำให้ชัดเจนต่อประชาชน
“ธนดล” ปัดไม่มีสิทธิสอบที่นิคมฯ สอบได้แค่ ส.ป.ก.
นายธนดล จึงกล่าวว่า เห็นตามข่าวคือโรงแรมเทมส์วัลลีย์เขาใหญ่ ซึ่งอยู่ก่อนถึงทางเข้าเขาใหญ่ราว 5 นาที ถ้าให้ตรวจสอบก็พร้อมที่จะตรวจสอบ หากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการอนุญาต แต่ตนมีอำนาจตรวจสอบเฉพาะที่ดิน ส.ป.ก. ไม่ได้มีอำนาจตรวจสอบนิคมฯ
ส่วนนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวยืนยันว่า กรมที่ดินได้แถลงข่าวชัดเจนไปแล้วว่า ปัญหาทับซ้อนไม่เกี่ยวกับกรมที่ดิน กรมที่ดินน่าจะเป็นปลายทาง เพราะเป็นการทับซ้อนระหว่างที่ดิน ส.ป.ก.และที่ดินนิคมฯ ถ้าผลตรวจสอบเป็นอย่างไร กรมที่ดินซึ่งเป็นปลายทางก็พร้อมจะทำตาม แต่ในชั้นดังกล่าวเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว อีกทั้งพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นพื้นที่ยกเว้น เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบของกรมแผนที่ทหาร