ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ และม็อบชาวนา กลับมาหลอกหลอนรัฐบาลเพื่อไทยอีกแล้ว!!
สาเหตุจากอินเดีย ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก กลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้งเมื่อปลายเดือน ก.ย.67 หลังห้ามส่งออกมาตั้งแต่เดือน ก.ค.66 นับแต่นั้น ปริมาณส่งออกและราคาข้าวไทยลดลงต่อเนื่อง
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า พ.ย.67 ส่งออก 786,264 ตัน ลด 3.4% จาก พ.ย.66 และ ธ.ค.67 ได้ 759,317 ตัน ลด 7.1% จาก ธ.ค.66 ทั้งปี 67 ได้ 9.945 ล้านตัน เพิ่ม 13.4% จากปี 66
ขณะที่ ม.ค.68 การส่งออกยังลดต่อเนื่อง เหลือ 640,566 ตัน ลดลง 32.8% จาก ม.ค.67 ที่ส่งออกเฉียด 1 ล้านตัน และปีนี้ ตั้งเป้าหมายส่งออกเพียง 7.5 ล้านตันเท่านั้น
ส่วนราคา สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ระบุว่า ข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% เฉลี่ยปี 66-67 ช่วงที่อินเดียห้ามส่งออก ตันละ 10,686 บาท และ 10,051 บาท ตามลำดับ
ปี 62-65 ช่วงที่อินเดียยังส่งออกตามปกติ ราคาเฉลี่ยของไทยตันละ 7,821 บาท, 8,434 บาท, 7,801 บาท และ 8,997 บาท ตามลำดับ และราคา ณ ปัจจุบัน ความชื้น 15% เฉลี่ยตันละ 8,000 บาท และความชื้น 25% ตันละ 6,000-7,000 บาท เท่ากับต้นทุนการผลิต
สำหรับผลผลิต ปีนี้ คาด 34.87 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่ม 4.12% จากปี 67 ที่มี 33.49 ล้านตัน และปี 66 ที่มี 33.63 ล้านตัน ซึ่งอาจกดดันราคาให้ลดลงได้อีก แม้ราคาช่วงนี้ใกล้เคียงกับปีที่อินเดียยังส่งออก แต่ก็ทำให้ชาวนาเดือดร้อนหนัก เพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
และรัฐไม่ได้เตรียมมาตรการใดๆ รับมือเลย ทั้งๆที่กระทรวงพาณิชย์ อ้างว่า ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และแม้ตั้งแต่เดือน ก.พ.68 ม็อบชาวนาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือก่อนที่ข้าวเปลือกนาปรังปี 68 จะออกมาตั้งแต่ มี.ค.เป็นต้นไป
แต่ยังไร้วี่แววความช่วยเหลือ ส่งผลให้การประท้วงของชาวนาลามไปหลายจังหวัด และ ส.ส.เพื่อไทย ไม่พอใจ “นายพิชัย นริพทะพันธุ์” รมว.พาณิชย์ ที่ไม่เร่งแก้ปัญหา จนพรรค และรัฐบาลเสียคะแนนนิยม เนื่องจากมีภารกิจไปต่างประเทศบ่อย อีกทั้งยังมีรายชื่อติดโผรัฐมนตรีที่จะถูกปรับออก
...
จนล่วงเข้าวันที่ 20 ก.พ.68 “นายพิชัย” ได้ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด และออก 3 มาตรการช่วยเหลือ ซึ่งนำเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) พิจารณาแล้ว จากนั้นจะเสนอให้ ครม.เห็นชอบต่อไป
สำหรับการไปต่างประเทศ “นายพิชัย” ยืนยันว่า ไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยว และมีผลงานทุกครั้ง อย่างไปดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ก็ไปลงนาม FTA ไทย-เอฟตา หรือไปอเมริกา ก็แก้ปัญหาที่สหรัฐฯเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทย รมต.พาณิชย์ทุกประเทศก็เดินทางเหมือนกันหมด
“มีชื่อจะถูกปรับออก เป็นเรื่องธรรมดาของนักการเมือง และพร้อมสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นโอกาสดีที่จะชี้แจง ผมจะลิสต์รายละเอียดการทำงาน และอธิบายว่า ทำอะไรบ้าง...”
รัฐบาลเพื่อไทย “พัง” เพราะ “ข้าว” มาแล้ว ครั้งนี้มาดูว่า ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่!!
ฟันนี่เอส
คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม