ประธานวิปฝ่ายค้านแขวะใช้ AI แทน กกต.หลังนิ่งไม่หือไม่อือตรวจสอบที่มา สว. ประกาศพรรคประชาชนพร้อมเลือกตั้ง ไม่ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ดีเอสไอ เปิดประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาคดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ว่า ดีเอสไอ มีอำนาจหรือไม่เรื่องทางกฎหมายถกเถียงกันได้ แต่ที่ผ่านมากกต.ทำอะไรอยู่ เรื่องนี้ถูกส่งไปนานมากแล้ว ว่าที่มา สว.ด้วยกติกาแบบนี้ตอบโจทย์หรือไม่ ยังจำเป็นต้องมีสองสภาอยู่หรือไม่ ฝากไปถึง กกต. ควรจะให้ความเห็นได้ตั้งแต่แรกว่า วิธีแบบนี้ไม่เวิร์ค ไม่ใช่บอกทำตามกติกาทุกอย่าง ถูกต้องตามกฎหมาย แบบนี้ก็ใช้ AI มาเป็น กกต.ก็ได้ ไม่ต้องใช้คน
ส่วนกรณี สว.จะบานปลายถึงขั้นเปลี่ยนขั้วรัฐบาลหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า พรรคประชาชนยืนยันพร้อมเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสินใจ จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนขั้วก็ตาม “พรรคประชาชนยืนยันว่า ในสภาชุดนี้ เราไม่เข้าร่วมรัฐบาลแน่นอน”
นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วยว่า เนื้อหาญัตติเสร็จสิ้นเรียบร้อย วันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้คงจะยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ ส่วนกรอบเวลาอภิปราย ยืนยันขอ 5 วัน และขอส่งเสียงไปยังพรรคเพื่อไทย สมัยที่แล้วก็ขอวันอภิปราย 5 วันทุกครั้ง หวังว่าได้เป็นรัฐบาลแล้วคงไม่ลืมประเทศยังมีการตรวจสอบถ่วงดุล
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าได้เก็งข้อสอบไว้บ้างแล้วนั้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่กังวลเรื่องข้อสอบรั่ว หรือหากรั่ว ข้อเท็จจริงก็วัดกันในสภาฯ ว่า ข้อมูลที่เราพูด กับสิ่งที่นายกฯ หรือรัฐมนตรีชี้แจง สังคมจะให้น้ำหนักกับฝั่งไหนมากกว่ากัน หวังว่าการลงมติ หรือการไปล็อบบี้เพื่อลงมติไว้วางใจ จะไม่ใช่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน คาดหวังว่าลงมติตามเนื้อหาสาระที่ทางฝ่ายค้านได้อภิปราย หากสิ่งไหนชัดเจนมาก หรือพรรคไหนมีแผลที่ชัดเจน หลักฐานชัด คิดว่าในฐานะผู้นำรัฐบาลก็ควรจะตัดสินใจในการปรับ ครม. หรือปรับรัฐมนตรีที่อาจจะมีข้อครหาเหล่านั้นออก
...