“ณฐพร โตประยูร” ยื่นหนังสือถึงนายกสภาทนายความ ในฐานะกรรมการคดีพิเศษ ขอให้รับฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ พร้อมทำคำร้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้การเลือก สว. เป็นโมฆะ อ้างมีหลักฐานครบ
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายณฐพร โตประยูร, ดร.วิเชียร รุจิธำรงกุล, นายสุรชัย ชินชัย อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา และคณะ ยื่นหนังสือต่อ นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในฐานะกรรมการคดีพิเศษ เพื่อขอให้พิจารณารับเรื่องคดีฮั้วการเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ
นายณฐพร กล่าวว่า วุฒิสภาเป็นองค์กรนิติบัญญัติที่จะต้องแต่งตั้งองค์กรอิสระ ต้องได้คนที่ซื่อสัตย์บริสุทธิ์และผ่านการเลือกสรรโดยสุจริตยุติธรรม แต่ปรากฏว่าจากพยานหลักฐานที่ตนรวบรวมนำเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพียงพอที่จะเห็นได้ว่าการคัดเลือกที่ผ่านมาไม่สุจริตยุติธรรมอย่างไร ประเด็นเหล่านี้เคยร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ปรากฏว่าร้องผิดมาตรา จึงมาสรุปแล้วว่ามาตราที่ควรร้องคือมาตราอะไร ขอให้ทางสภาความช่วยเหลือในเรื่องการทำคำร้อง
ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นในองค์กรทนายความว่าเป็นศูนย์รวมนักกฎหมายของประเทศ ซึ่งตัวนายกสภาทนายความก็เป็นสมาชิกกรรมการเกือบทุกหน่วยงาน เพื่อให้พิสูจน์ว่าการเลือก สว. ที่ผ่านไม่สุจริตยุติธรรมอย่างไร ในส่วนของตนคาดว่าไม่เกินวันที่ 10 มีนาคม 2568 จะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะหลักฐานต่างๆ เรามีภาพ เสียง คลิปเสียง พยานเอกสาร พยานบุคคล และพยานจากหน่วยงานต่างๆ จะนำเสนอต่อศาล และคาดว่าศาลรัฐธรรมนูญใช้ระยะเวลาพิจารณาไม่เกิน 2-3 เดือน
นายณฐพร กล่าวต่อไปอีกว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำเรื่องคดีอาญา ในคดีอั้งยี่และซ่องโจร ส่วนที่เราทำกันคือเรื่องการเลือกตั้งไม่สุจริตยุติธรรม สภาทนายความจะทำทั้ง 2 หน้าที่ คือส่งให้คณะกรรมการคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษ และทำความเห็นเรื่องเลือกตั้งไม่สุจริตฯ เพราะเรื่องนี้เชื่อว่าเมื่อตนร้องไปแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะต้องทำความเห็นมายังสภาทนายความ ตรงนี้คือมีมาตรการที่มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบ จะเป็นหลักฐานเอกสารประกอบได้
...
“ผมเห็นความผิดปกติตั้งแต่การรับรองผู้สมัครแล้ว ไม่เคยเห็นการเลือกตั้งครั้งไหนที่แย่ขนาดนี้ ผมมีหลักฐานการโอนเงิน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ มีคลิปในการเจรจา มีเสียงและภาพถ่าย สามารถเชื่อมโยงว่ากลุ่มนี้เป็นใครมาจากไหน ใครเป็นหัวหน้าหน่วย ใครเป็นคนดำเนินการ ทราบว่าคนที่เป็นคนเขียนโปรแกรมและการฮั้วทั้งหมด เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ ผมจะเปิดเผยในศาลรัฐธรรมนูญ”
พร้อมกล่าวด้วยว่า ดีเอสไอมีหน้าที่ดำเนินคดีอาญา คดีอั้งยี่และซ่องโจร ถ้าหากคณะกรรมการคดีพิเศษโหวตไม่รับ แต่ยังมีพยานหลักฐานที่สามารถนำส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญ โดยตั้งใจร้องให้การเลือกครั้งนี้เป็นโมฆะ ผู้พิจารณาคือศาลรัฐธรรมนูญ
ทางด้าน นายกสภาทนายความ กล่าวว่า วันนี้มีกลุ่มผู้ร้องมายื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบการเลือก สว. ที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม พร้อมรวบรวมข้อมูล คำร้องเรียนที่เคยรวบรวมมาไว้ในการเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินรวม 2 เล่ม มีทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย พร้อมพยานหลักฐาน ทราบว่าประเด็นสำคัญของสังคมคือวันพรุ่งนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2568) จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าจะมีมติรับกรณีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษการสอบหรือไม่ อย่างไร ตนในฐานะคณะกรรมการคดีพิเศษจะต้องนำพยานหลักฐานในวันนี้ไปมอบให้ประธานคณะกรรมการคดีพิเศษในวันพรุ่งนี้ พร้อมยืนยันว่า ตนไม่เคยได้รับสาย สว.คนใด ไม่มีใครมากดดันตนได้ พิจารณาว่ากันไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง