“สส.แบงค์ ศุภณัฐ” อโหสิกรรมให้ “ทันกวินท์” สำนึกผิดในการกระทำ ขอขมากล่าวหาหนีทหาร ยอมรับโพสต์ใบ สด.43 ของคนอื่น ทำเสื่อมเสียชื่อเสียง ย้ำ การนำข้อมูลเท็จมากล่าวหาคนอื่นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร นักธุรกิจและนักวิชาการอิสระ ได้ออกหนังสือขอโทษ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ หรือ แบงค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กทม. พรรคประชาชน โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า ตามที่ข้าพเจ้า นายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร (จำเลย) ได้เคยกล่าวหา นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ หรือ สส.แบงค์ (โจทก์) ว่าไม่ไปเข้ารับการตรวจเลือกทหาร, เคยหนีทหาร, ทำให้เข้าใจได้ว่ามีการทุจริตการเข้ารับการตรวจเลือก หรือเคยต้องคำพิพากษาว่าหนีทหาร จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ภายหลังจากที่ถูกฟ้องเป็นคดีนี้แล้ว ข้าพเจ้าจึงได้ทราบว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าพูดไม่ตรงกับความเป็นจริง จนเป็นเหตุให้ สส.แบงค์ ได้รับความเสียหาย และถูกสังคมเข้าใจผิดจนเป็นวงกว้าง โดยมี 4 ประเด็นหลัก ที่ข้าพเจ้ากล่าวหา สส.แบงค์
1. กรณีข้าพเจ้านำคำพิพากษามากล่าวหา สส.แบงค์ ว่าหนีทหาร ข้าพเจ้าขอยืนยันว่า สส.แบงค์ ไม่ได้หนีทหาร และไม่ได้ต้องคำพิพากษาว่าหนีทหารแต่อย่างใด คำพิพากษาดังกล่าวเป็นกรณีที่ สส.แบงค์ ไม่ได้ไปรับหมายเรียกเข้ารับการตรวจคัดเลือกที่สำนักงานเขตคลองสามวา เนื่องจากอยู่ระหว่างการศึกษาต่อที่ต่างประเทศ และการไม่ได้ไปรับหมายเรียกที่สำนักงานเขต ไม่ใช่การหนีทหาร ตามที่ข้าพเจ้ากล่าวหา สส.แบงค์
ทั้งนี้ในปี 2556 สส.แบงค์ ได้เดินทางไปแสดงตนเพื่อเข้ารับการตรวจเลือกทหารตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ไม่ได้หลีกเลี่ยง หรือขัดขืนไม่มาเข้ารับการตรวจเลือกทหารแต่อย่างใด โดย สส.แบงค์ ได้นำเอกสารการเข้ารับการตรวจเลือกทหารของตนมาแสดงและพิสูจน์ความจริงต่อหน้าศาลและข้าพเจ้าจนเป็นที่สิ้นสงสัยแล้ว
...
2. กรณีข้าพเจ้าให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องว่า สส.แบงค์ ไม่มีสิทธิจับใบดำใบแดง ซึ่งทำให้สังคมเข้าใจว่า สส.แบงค์ ทุจริต หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าในปี 2556 สส.แบงค์ ได้ไปเข้ารับการตรวจเลือกทหารอย่างถูกต้อง และเนื่องจากมิใช่ผู้ที่หนีทหาร จึงยังคงมีสิทธิจับสลากใบดำใบแดงตามปกติ และมิได้กระทำการทุจริตการตรวจคัดเลือกทหารแต่อย่างใด
3. กรณีข้าพเจ้าได้โพสต์ใบ สด.43 ของผู้อื่นที่บอกว่าเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด และเชื่อมโยงให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นของ สส.แบงค์ ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่ของ สส.แบงค์ แต่เป็นภาพที่ข้าพเจ้าโพสต์เพื่อใส่ความ สส.แบงค์
4. กรณีข้าพเจ้าได้มีการแถลงข่าวกล่าวหา สส.แบงค์ ว่าเคยต้องคำพิพากษาว่าได้รับโทษจำคุก ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าการแถลงข่าวนั้นไม่เป็นความจริง โดย สส.แบงค์ ไม่เคยต้องคำพิพากษาให้ได้รับโทษจำคุกแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ข้าพเจ้าสำนึกผิดในกระทำทั้งหมด และต้องขอขมาต่อ สส.แบงค์ ที่ได้กล่าวให้ร้าย สส.แบงค์ หลายครั้ง จึงขอเผยแพร่ข้อความนี้เพื่อถอนคำพูดในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เอ่ยวาจาล่วงเกิน และเรียกคืนความบริสุทธิ์ให้กับ สส.แบงค์ และขอความร่วมมือให้สื่อมวลชน รวมถึงบุคคลทั่วไปทุกท่านช่วยเผยแพร่คลิปนี้ และลบคลิปวิดีโอหรือข่าวอื่นที่อาจทำให้ สส.แบงค์ ได้รับความเสียหาย รวมถึงข่าวทั้งหมดของข้าพเจ้าที่เคยกล่าวคำให้ร้าย สส.แบงค์ จนเสื่อมเสียชื่อเสียง โดนสังคมเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง พร้อมทิ้งท้ายว่า ขอขอบคุณ สส.แบงค์ ที่ให้โอกาสข้าพเจ้าได้ขอโทษในความผิดพลาด
ต่อมาเมื่อเวลา 19.05 น. ทางด้าน นายศุภณัฐ ได้โพสต์คลิปที่ นายทันกวินท์ กล่าวขอโทษ พร้อมระบุในตอนหนึ่งผ่านทางเฟซบุ๊กว่า “อยากให้เป็นกรณีตัวอย่างกับสังคม โดยเฉพาะผู้ติดตาม นายทันกวินท์ หรือติดตามเพจแนวร่วม ว่าการที่เราจะเชื่ออะไรใคร เราควรดูด้วยว่าผู้พูดมีความน่าเชื่อถือมากน้อยขนาดไหน โดยเฉพาะกับเพจที่ให้ข้อมูลเท็จกับสังคมอย่างสม่ำเสมอ และไม่เคยต้องออกมารับผิดชอบอะไร เราอย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ เราควรมีสติปัญญาไตร่ตรองก่อนจะโดนหลอกใช้เป็นเครื่องมือ และขอให้ทราบว่าการนำข้อมูลเท็จมากล่าวหาคนอื่นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะกล่าวกับใครก็ตาม และไม่ใช่ทุกคนจะใจดีเสมอไป ครั้งนี้ผมอโหสิกรรมให้ครับ แต่ไม่ควรมีครั้งหน้า ขอเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนต่อครับ”